กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ แกว่งขึ้นต่อ แรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศยังดีอยู่

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ แกว่งขึ้นต่อ แรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศยังดีอยู่

แนวโน้มดัชนีฯ บวกต่อ เนื่องจากปัจจัยหนุนฝั่งในประเทศยังแข็งแกร่ง ในสัปดาห์ที่แล้ว (7-11 ตุลาคม) ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวขึ้น ถือว่าแข็งแกร่งเกินความคาดหมายเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

ข้อแรก นักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงเดินหน้าซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง (หนุนโดยเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์) ซึ่งแรงซื้อในส่วนนี้เกินพอที่จะชดเชยกระแสเงินทุนจากต่างชาติที่ไหลออกอย่างต่อเนื่อง

ข้อที่สอง หุ้นบางกลุ่มในตลาดหุ้นไทยได้แรงกระตุ้นจากปัจจัยเฉพาะตัว ในขณะที่ตลาดในภาพรวมอยู่ในโหมดของการพักฐาน โดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาเพราะนักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแบบ soft landing ซึ่งทำให้หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐวิ่งขึ้นมาแรง ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่ม ICT ของไทยก็ได้แรงหนุนจากกระแสข่าวเกี่ยวกับการลงทุน data center ในประเทศไทย

สำหรับในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม) เราคาดว่าดัชนี SET จะยังขึ้นแบบ sideways up จากประเด็นการลงทุนดังต่อไปนี้  

ประเด็นแรก ถึงแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นเอเชียจะยังผันผวน เพราะยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นทางการคลังของจีน ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนเฝ้ารอมานานแล้ว แต่ตลาดหุ้นไทยน่าจะได้แรงหนุนจากแรงซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบัน ในขณะที่ยังไม่มีกระแสข่าวลบจากตลาดการเงินโลกเข้ามากระทบ

ประเด็นที่สอง หลังการประชุม กนง. ในวันพุธนี้ มีโอกาสสูงที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น เพราะ ธปท. น่าจะยังคงดอกเบี้ย พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจัยบันเหมาะสมแล้ว และเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

 

ติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคาร และ เทคโนโลยีสหรัฐ, ยอดค้าปลีก, ผลประชุม ECB และผล
ประชุม กนง. ไทย  

ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ผลประกอบการ 3Q67 ของธนาคาร และ บริษัทเทคโนโลยีหลัก ๆ ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ii) ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนของสหรัฐที่จะประกาศในวันที่ 17 ตุลาคม และ iii) ผลการประชุม ECB ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 17 ตุลาคมเช่นกัน โดย Consensus คาดว่า ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) กระแสข่าวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างเช่น ‘Easy e-receipt’ และ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ซึ่งจะมีการนำมาใช้ในปี 2568 และ ii) ผลการประชุม กนง. ในวันที่ 16 ตุลาคม ซึ่งตลาดคาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.50%

แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้าและหุ้นสายการบิน ขณะที่ธีมลงทุนหลักคงเป็นกลุ่มการบริโภค และ กลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีใน 3Q67   

ในระยะสั้น ไอเดียเทรดที่น่าสนใจคือ i) กลุ่มสาธารณูปโภคอย่างเช่น BGRIM* และ GSPC* ซึ่งจะได้อานิสงส์จากเงินบาทที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นหลังการประชุม กนง. ในวันพุธ ii) กลุ่มการบิน อย่างเช่น AAV* ซึ่งอาจจะได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัว, เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และ การเข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยว สำหรับหุ้นกลุ่มหลักที่เราแนะนำ ยังคงเป็นกลุ่มการบริโภค อย่างเช่น CPALL*, CPAXT, CBG* และ กลุ่มที่ผลประกอบการ 3Q67 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง อย่างเช่น BH* และ TRUE*