วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี Healthcare - คณะอนุกรรมการฯ ประกันสังคมประชุม 17 ต.ค.นี้
วันที่ 17 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมนัดแรกของคณะอนุกรรมการฯ (เฉพาะกิจ) ประกันสังคม โดยกรณีดีสุดหากคณะอุนกรรมการฯ มีผลสรุปสอดคล้องกับข้อเสนอของสมาคม รพ.เอกชน และการันตีจ่ายค่ารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ขั้นต่ำที่ 12,000 บาท/RW สำหรับงบฯ ปี 2025
เรามองว่าจะช่วยคลายกังวลค่ารักษาประกันสังคม และไม่เป็น Downside ต่อกำไรสุทธิ BCH และ CHG ส่วนกรณีแย่สุดไม่มีการการันตีค่ารักษา RW>2 ขั้นต่ำ เรามองว่าการบันทึกค่ารักษา RW>2 ที่ต่ำกว่า 12,000 บาท/RW ในปี 2025F จะมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าการถอนตัวจากการเป็น รพ.คู่สัญญาประกันสังคม โดยเราประเมินผลกระทบส่วนต่างทุก -1,000 บาท จากสมมติฐาน 12,000 บาท จะกระทบต่อกำไรสุทธิ BCH และ CHG ราว -1.3% / -1.2% ตามลำดับ หุ้นเด่นเลือก BDMS (TP 38 บาท) และ CHG (TP 3.20 บาท)
ประเด็นข่าว
- วันที่ 17 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมนัดแรกของคณะอุนกรรมการทบทวนหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคม (เฉพาะกิจ) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการทางการแพทย์ของผู้ประกันตน, การจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาล รวมถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของสถานพยาบาล และจัดทำหลักเกณฑ์อัตราจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลในระบบประกันสังคม โดยคณะอนุกรรมการฯ ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วันนับจากลงนามคำสั่งวันที่ 8 ต.ค.24 เพื่อเสนอผลสรุปต่อคณะกรรมการบอร์ดแพทย์
- นายกสมาคม รพ.เอกชน (นพ.ไพบูลย์) ระบุ ในการประชุมของคณะอนุกรรมการฯ วันที่ 17 ต.ค.นี้ สมาคมฯ จะยื่นข้อเสนอขอให้มีการการันตีหรือประกันการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยในสำหรับการรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ขั้นต่าที่ 12,000 บาท จากเพดานที่ 15,000 บาท (ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามองว่าข่าวดังกล่าวจะยังเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้น รพ.ที่ให้บริการประกันสังคมมีแนวโน้มเหวี่ยงตัวจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องอัตราจ่ายค่าบริการทางการแพทย์สำหรับโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ซึ่ง รพ.ที่เราศึกษาและเป็นคู่สัญญากับประกันสังคมได้แก่ BCH (สัดส่วนรายได้ 33.7%), CHG (สัดส่วนรายได้ 30%) และ รพ.ในเครือ BDMS (สัดส่วนรายได้ 2%)
- กรณีดีสุดคณะอนุกรรมการฯ มีผลสรุปสอดคล้องกับข้อเสนอของสมาคม รพ.เอกชน และสำนักงานประกันสังคมการันตีจ่ายขั้นต่ำที่ 12,000 บาทสำหรับงบประมาณปี 2025 เรามองว่าจะช่วยคลายกังวลเรื่องค่ารักษาประกันสังคม และไม่เป็น Downside ต่อประมาณการกำไรสุทธิ BCH และ CHG
- กรณีแย่สุดประกันสังคมไม่มีการการันตีค่ารักษาส่วน RW>2 ที่อัตรา 12,000 บาท/RW เรามองว่าการบันทึกค่ารักษาส่วน RW>2 ในปี 2025F ต่ำกว่า 12,000 บาท/RW จะมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าการถอนตัวจากการเป็น รพ.คู่สัญญากับประกันสังคม เนื่องจาก 1) ไม่สามารถหาแหล่งรายได้ใหม่เข้ามาชดเชยได้ทันในระยะสั้น และ 2) มีผลกระทบต่อโครงสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญของ BCH และ CHG โดยเราประเมินผลกระทบส่วนต่างทุก -1,000 บาท จากสมมติฐาน 12,000 บาท จะกระทบต่อกำไรสุทธิ BCH และ CHG ราว -1.3% / -1.2% ตามลำดับ
- คงน้ำหนักลงทุน Bullish สำหรับกลุ่มการแพทย์ เนื่องจาก 1) ความชัดเจนค่ารักษาประกันสังคมส่วน RW>2 จะลดความเสี่ยง Downside ต่อประมาณการกำไรรวมของกลุ่ม รพ. 2) การเพิ่มสิทธิประโยชน์รักษาโรครุนแรงของโครงการรัฐ ช่วยเพิ่มอัตราใช้บริการและ Intensity ค่ารักษา 3) มีโอกาสขยายฐานลูกค้าต่างชาติใหม่ และการขยายตัวของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4) คาดกำไรรวมกลุ่มฯ (+10%CAGR 24-26) เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ Valuation ของกลุ่มฯ ซื้อขาย PE ปี 25F เฉลี่ย 30 เท่า เทียบเท่า Mean PE หุ้นเด่นเลือก BDMS (Buy TP 38) และ CHG (Buy TP 3.20)