วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ คาดตลาดหุ้นพักฐานในช่วงสั้น เน้นลงทุนกลุ่มอิงปัจจัยในประเทศ
ผลประกอบการไตรมาส 3/67 กลุ่มธนาคารอยู่ในเกณฑ์ดี แต่อาจถูกกดดันในปี 68 วานนี้กลุ่มธนาคารมีการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/67 ในบริษัทที่เหลือ ได้แก่ KTB, KBANK, และ SCB
โดยกำไรสุทธิของ KTB และ KBANK ออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาด ขณะที่ SCB ออกมาดีกว่าที่เราคาด 15% เรามองเป็นจังหวะเก็งกำไรในระยะสั้นของ SCB อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารจะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในปี 68 เนื่องจากมีโอกาสที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ NIM ของกลุ่มธนาคารใหญ่แคบลง
คาดเห็นการแกว่งออกข้างถึงพักฐาน ในระยะสั้นเราประเมินตลาดหุ้นไทย อาจมีการแกว่งออกข้าง ถึงพักฐาน เนื่องจาก 1) ดัชนีปรับขึ้นมาแล้วกว่า 200 นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของรอบ (6 ส.ค.) หรือหลังการได้นายกฯ รัฐมนตรีเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร, 2) คาดผลประกอบการไตรมาส 3/67 จะอ่อนแอ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยสูง เนื่องจากรายได้ และกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 จะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก และ 3) คาด Catalyst ใหม่ช่วยหนุนในระยะสั้น เรายังคงแนะ กลยุทธ์แบบเลือกลงทุนเป็นรายตัวเป็นหลัก
การปรับขึ้นมาในโซน 1,500-1,535 จุด เป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไร ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นกว่า 200 จุดในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าดีกว่าที่ตลาดและนักลงทุนส่วนใหญ่คาด อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่จำนวนมากในระดับ 30%-50% ทำให้อาจต้องเริ่มระวังความผันผวนจากแรงทำกำไรที่จะตามมา การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยัง Laggards หรือมีปัจจัยผลักดัน
ภาพรวมกลยุทธ์ “กรอบการเก็งกำไรยกขึ้นเป็น 1,460-1,535 จุด เลือกเก็งกำไรรายตัว สะสมหุ้นที่เข้าสู่ช่วง high season อย่างท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารสัตว์เลี้ยงเราชอบ AOT, ERW, CENTEL, SPA, VRANDA, BCH, BDMS, ITC //หุ้นได้แประโยชน์ Data center: WHA, INSET, ITEL, MFEC, AIT, ICN, LTS // หุ้นต่ำมูลค่าทางบัญชี FLOYD, IND, BC
แนวรับ: 1,486 / แนวต้าน : 1,500-1,515 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• BGRIM* (30) : คาดกำไรสุทธิ 3Q24 จะฟื้นตัวอย่างมีนัย และมองเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง ตัดขาดทุน 23.50 บาท
• HMPRO* (12.1) : คาดยอดสาขาเดิมจะสามารถเติบโตได้ใน 2H24 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และผลบวกหลังสถานการณ์น้ำท่วม ตัดขาดทุน 10.40 บาท
• TTB* (2.16) : กำไรสุทธิ 3Q24 ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตัดขาดทุน 1.80 บาท
• AU* (10.50) : คาดกำไรสุทธิ 3Q24 เติบโต 38% yoy หนุนจาก SSSG ที่เป็นบวก และการ OEM ขนมปังเนยโสดเข้าสู่ 7-eleven ตัดขาดทุน 9.70 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- IEA เผยดีมานด์ “น้ำมัน” ทั่วโลก อ่อนแอหนัก เซ่นพิษเศรษฐกิจจีนชะลอตัว-ยอดใช้ EV พุ่ง
- บีโอไอเผยลงทุน 9 เดือน พุ่งต่อเนื่อง ทะลุ 7.2 แสนล้าน สูงสุดรอบ 10 ปี ผุดฐานอุตสาหกรรมใหม่
- EGCO คาดโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin จะจ่ายไฟครบ 640 MW สิ้นปีนี้ รับทรัพย์ 2 พันลบ./ปี
- KBANK นำร่องแบงพาณิชย์ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.12-0.25% มีผล 1 พ.ย.
- แบงก์ไทยพาณิชย์ ลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 1 พ.ย.
- กสิกรไทย กำไรงวด 9 เดือนปี 67 แตะ 38,104 ล้านบาท
- KTB ไตรมาส 3/67กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.11 หมื่นลบ.
- เอสซีบี เอกซ์ กำไรไตรมาส 3 ของปี 2567 จำนวน 10,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2%
- ตลท.รับ TMAN เข้าเทรดวันแรก 22 ต.ค. ด้วยมูลค่ามาร์เก็ตแคป 6,520.05 ลบ.
- KBANK แนะนำ “ซื้อ” เป้า 190 บาท/ KTB แนะนำ “ซื้อ” เป้า 25 บาท/ SCB แนะนำ “ซื้อ” เป้า 134 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 ต.ค. – TH Exports (Sep)