วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ คาดตลาดหุ้นไทยพักฐาน แนะสะสมกลุ่มท่องเที่ยว
มองเป็นโอกาสสะสมกลุ่มท่องเที่ยว ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1ม.ค. – 20 ต.ค. 67 อยู่ที่ 27.79 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30% yoy โดยนักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นประเทศที่เข้ามาเยือนไทยมากที่สุด
หากดูตัวเลขนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ ชาวต่างชาติมาเยือนไทยทั้งสิ้น 575,142 คน ลดลงเล็กน้อย -0.5% wow จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังอ่อนแอ แต่เรามองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นกลุ่มอิงการท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มโรงแรม และค้าปลีก เนื่องจากคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีในช่วง พ.ย. - ธ.ค. ที่เป็นช่วง high season สำหรับวันนี้แนะติดตามการรายงานตัวเลขการส่งออกประจำเดือน ก.ย.
คาดเห็นการแกว่งออกข้างถึงพักฐาน ในระยะสั้นเราประเมินตลาดหุ้นไทย อาจมีการแกว่งออกข้าง ถึงพักฐาน เนื่องจาก 1) ดัชนีปรับขึ้นมาแล้วกว่า 200 นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของรอบ (6 ส.ค.) หรือหลังการได้นายกฯ รัฐมนตรีเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร, 2) คาดผลประกอบการไตรมาส 3/67 จะอ่อนแอ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยสูง เนื่องจากรายได้ และกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 จะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก และ 3) คาด Catalyst ใหม่ช่วยหนุนในระยะสั้น เรายังคงแนะกลยุทธ์แบบเลือกลงทุนเป็นรายตัวเป็นหลัก
การปรับขึ้นมาในโซน 1,500-1,535 จุด เป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไร ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นกว่า 200 จุดในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าดีกว่าที่ตลาดและนักลงทุนส่วนใหญ่คาด อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่จำนวนมากในระดับ 30%-50% ทำให้อาจต้องเริ่มระวังความผันผวนจากแรงทำกำไรที่จะตามมา การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยัง Laggards หรือมีปัจจัยผลักดัน
ภาพรวมกลยุทธ์ “กรอบการเก็งกำไรยกขึ้นเป็น 1,460-1,535 จุด เลือกเก็งกำไรรายตัว สะสมหุ้นที่เข้าสู่ช่วง high season อย่างท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารสัตว์เลี้ยงเราชอบ AOT, ERW, CENTEL, SPA, VRANDA, BCH, BDMS, ITC //หุ้นได้แประโยชน์ Data center: WHA, INSET, ITEL, MFEC, AIT, ICN, LTS // หุ้นต่ำมูลค่าทางบัญชี FLOYD, IND, BC
แนวรับ: 1,450 / แนวต้าน : 1,486-1,500 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• MEB* (42) : คาดกำไรสุทธิ 3Q67 ยังเติบโตเด่น จากจำนวนผู้ใช้งาน และการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะ 4Q67 จะได้แรงหนุนจากงานสัปดาห์หนังสือ ตัดขาดทุน 29.00 บาท
• HMPRO* (12.1) : คาดยอดสาขาเดิมจะสามารถเติบโตได้ใน 2H24 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และผลบวกหลังสถานการณ์น้ำท่วม ตัดขาดทุน 10.00 บาท
• IVL* (32) : คาดกำไรสุทธิ 3Q67 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมายขึ้น ตัดขาดทุน 24 บาท
• AU* (10.90) : คาดกำไรสุทธิ 3Q24 เติบโต 38% yoy หนุนจาก SSSG ที่เป็นบวก และการ OEM ขนมปังเนยโสดเข้าสู่ 7-eleven ตัดขาดทุน 9.70 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเกินคาด
- โพลชี้ "ทรัมป์-แฮร์ริส" คะแนนสูสีช่วงโค้งสุดท้ายใน 7 รัฐสมรภูมิ
- ราคาน้ำมัน WTI ร่วง หลังสหรัฐฯ เผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์พุ่งสูงเกินคาด
- จีนเตรียมเปิดตัวแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคใน 5 เมืองใหญ่
- IMF ลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจจีนโต 4.8% ปีนี้ เตือนภาคอสังหาฯ ย่ำแย่ลงอีก
- IMF คาดเศรษฐกิจไทยโต 2.8% ปีนี้ และ 3% ปีหน้า
- ผู้ว่าธปท.ย้ำไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ยลงอีก ขึ้นอยู่กับแนวโน้มเงินเฟ้อ-เศรษฐกิจ
- รฟม.เก็บค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายดันยอดผู้โดยสารโตต่อเนื่อง
- กรุงไทย ลดดอกเบี้ยเงินกู้ MOR MLR และ MRR มีผล 1 พ.ย.2567
- TTB ลดดอกกู้ 0.125-0.250% มีผล 1 พ.ย. พร้อมยืดอายุมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง
- กลุ่มธนาคาร คงน้ำหนัก OVERWEIGHT/ IVL แนะนำ “ซื้อ” เป้า 32 บาท/ WHA แนะนำ “ซื้อ” เป้า 6.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 ต.ค. – TH Exports (Sep)