วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก แนวรับสำคัญ 1450

อีกทั้งการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PCE และตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,453.03 จุด -10.39 จุด -0.71% มูลค่าการซื้อขาย 45,931.6 ลบ. Program Trading -1,608.7 ลบ. ต่างชาติ -793.8 ลบ. TFEX -20,629 สัญญา ตราสารหนี้ -1,346.9 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 273.17 จุด หรือ +0.65% ได้แรงหนุนจากตลาดคลายความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
+ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลหวังจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับชาติอาหรับมากขึ้น ทันทีที่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่ม ฮามาสและฮิซบอลเลาะห์สิ้นสุดลง
+ กกพ.เคาะลดเงินประกันการใช้ไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ประวัติดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่รอบบิลต้นปี 2568
+ ทอท. เปิดเผยถึงปริมาณการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในปีงบประมาณ 67 (ต.ค.66-ก.ย.67) ว่ามีผู้โดยสารใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่ม 19.22% เมื่อเทียบกับปีงบ 66
+ นายกฯเป็นประธานเปิดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านโครงการ “Thailand Winter Festivals” เพื่อผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและงานเทศกาลระดับโลก

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ -6.13% ปิดที่ 67.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีแหล่งน้ำมันในอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งทำให้อุปทานพลังงานไม่ได้รับผลกระทบ

 

 

- กระทรวงกลาโหมรัสเซียกำลังพิจารณาแนวทางต่าง ๆ เพื่อตอบโต้หากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในนาโตให้ความช่วยเหลือยูเครนในการโจมตีลึกเข้ามาในแผ่นดินรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ชาติตะวันตกจัดหาให้
- NATO เตรียมรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้เกี่ยวกับสถานการณ์ทหารเกาหลีเหนือในรัสเซีย ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอีกไม่นานทหารเกาหลีเหนืออาจพร้อมเข้าประจำการในสนามรบเพื่อต่อสู้กับยูเครน
- กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าการส่งออกเดือนกันยายน 2567 มีมูลค่า 25,983.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.1%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดโต 3% แม้ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน ในช่วง 9M67 การส่งออก มีมูลค่า 223,176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.9%YoY
- ตลท.สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-25 ตุลาคม 2567 พบว่า สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 32,962.70 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 75.53 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 116,534.38 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 83,496.15 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด ขณะที่มีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีแหล่งน้ำมันในอิหร่าน มองกรอบดัชนี 1,445-1,460 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• สินค้าส่งออกเดือนก.ย.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH STGT WFX
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP GULF BGRIM GPSC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR GULF GPSC BGRIM SIRI SC SPALI

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

CCET - ("ซื่อเมื่ออ่อนตัว" Bloomberg Consensus  5.10 บาท)
"คาดกำไร 3Q67 เติบโต QoQ และเติบโต YoY"

•คาดผลประกอบการ 3Q67 เติบโต QoQ และ YoY จากยอดขายที่เติบโต 13.1%YoY สู่ 4.04 หมื่นลบ. โดยได้แรงหนุนจากสินค้า SSD Harddisk Smart wearable และ การย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังประเทศไทย นอกจากนี้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวขึ้น YoY เนื่องจากรับคำสั่งซื้อที่มี High Margin เพิ่มขึ้น ทั้งนี้รายงานกำไร 1H67 ที่ 1.3 พันลบ. +102%YoY และคิดเป็น 45% ของประมาณการ

•ผู้บริหาร เผยกำลังการผลิตในปัจจุบันทั้งโรงงานที่สมุทรสาครและเพชรบุรีเต็มกำลังการผลิตแล้วและอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตซึ่งคาดว่าแล้วเสร็จ 4Q67 และเริ่มรับคำสั่งซื้อใหม่ได้ในปี 2568 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นสินค้า High margin เพิ่มขึ้น

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q67 ที่ได้แรงหนุนจากยอดขายที่เติบโต 13%YoY สอดคล้องกับ Bloomberg Consensus ที่คาดว่ากำไรปี 67 และ 68 จะเติบโต 163% และ 17% สู่ 2.9 พันลบ. และ 3.4 พันลบ. อย่างไรก็ตามราคาในปัจจุบันสูงกว่าราคาเหมาะสม Consensus เราจึงแนะนำ“ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

หุ้นมีข่าว

(+) MASTER (ราคาเหมาะสม 53.00 บาท) ปักธงรุกหนักดึงลูกค้าต่างประเทศ หวังขึ้นแท่นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชั้นนำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดันสัดส่วนรายได้ลูกค้าต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% ปีหน้า จากสิ้นไตรมาส 3 ที่ 25.85% หนุนผลดำเนินงานโตกว่า 20% เล็งสร้างโรงพยาบาลที่อินโดนีเซียเหตุมีศักยภาพโตสูง คาดชัดเจนไตรมาส 2/2568 แย้มเจรจาดีล M&P จำนวนมากคาดเริ่มทยอยประกาศภายในสิ้นปีนี้ ปีนี้มั่นใจรายได้โต 20% หลังงบครึ่งปีหลังเด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AOT (Bloomberg Consensus 68.50 บาท) เผยเปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 สุวรรณภูมิ 25 วัน สายการบินใช้บริการแล้ว ราว 1 พันเที่ยวบินต่อวัน คาดแตะ 94 เที่ยวบินต่อวันกลางปี 2568 ด้านปริมาณผู้โดยสาร ทั้งปี 2567 (สิ้นสุดก.ย. 2567) พุ่ง 19.22% YoY คาดปี 2568 แตะ 130 ล้านคน ย้ำแผนพัฒนางานบริการ เน้นผู้โดยสารเดินทางผ่าน 6 สนามบินสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น เช็คอินด้วยระบบไบโอเมตริก นำร่อง 1 พฤศจิกายนนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WPH (Bloomberg Consensus - บาท) มองแนวโน้มไตรมาส 4/2567 ผลการดำเนินงานยังเติบโต จำนวนผู้ป่วยทยอยเข้ารับบริการต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปี 2567 รายได้ เติบโต 30% ตามเป้า เดินหน้าขยายบริการรองรับผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขยายพอร์ตรับผู้ป่วยประกันสังคมเป็นครั้งแรกเริ่มปี 2568 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PLUS (Bloomberg Consensus 6.50 บาท) ลุ้นยอดขายจีนปี 2568 โตเกินเท่าตัว สัญญาณบวกจากกำลังซื้อเพิ่ม แถมเริ่มวางจำหน่ายสินค้าใหม่ในมินิมาร์ตชั้นนำเพิ่มเติมแล้ว คาดดีลนำแบรนด์ Royal Coco เข้า Family Mart สำเร็จก่อนสิ้นปีนี้ ทว่ายอมรับปี 2567 ยอดขายรวมส่อ ไม่ถึงเป้าโต 40-50% แต่มั่นใจปีหน้าเร่งตัวแรง (ที่มา ทันหุ้น)