วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTTEP กำไรน่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2567F
คาดว่ากำไรสุทธิของ PTTEP ใน 4Q67F จะอยู่ที่ประมาณ 1.72 หมื่นล้านบาท (-6% YoY, -4% QoQ)ซึ่งแม้ว่ากำไรในไตรมาสที่สี่จะลดลง แต่ยังจะทำให้กำไรสุทธิของ PTTEP ในปี 2567F ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 7.77 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการเต็มปีในปัจจุบันของเรา 3%
ทั้งนี้ประมาณการ 4Q67F เบื้องต้นของเรามาจากสมมติฐานว่าปริมาณยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และราคาขายก๊าซจะแข็งแกร่ง โดยเราคาดว่าปริมาณยอดขายของ PTTEP ใน 4Q67F จะเพิ่มขึ้น 13% QoQ เป็น 535 KBOED เนื่องจาก i) ปริมาณยอดขายก๊าซเพิ่มขึ้นประมาณ 40 KBOED เพราะไม่มีการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโครงการเอราวัณ, บงกช, อาทิตย์ และไพลิน เหมือนกับใน 3Q67 และ ii) ปริมาณยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวเพิ่มขึ้นจาก load น้ำมันดิบและคอนเดนเสทที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20 KBOED จากโครงการ HBR
ในแอลจีเรีย และโครงการ Block 61 และ PDO Block 6 ที่โอมาน เรายังคาดว่าราคาขายก๊าซของบริษัทจะ
แทบไม่เปลี่ยนแปลง QoQ อยู่ที่ US$5.95/mmbtu ใน 4Q67 สอดคล้องกับเป้าปีนี้ของผู้บริหารที่ US$5.9/mmbtu แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวจะลดลง 4% QoQ เหลือ
US$73.6/BOE อิงจากราคาน้ำมันดิบดูไบใน 4QTD67 ที่ US$75/bbl นอกจากนี้ เรายังคาดว่าต้นทุนต่อ
หน่วยของ PTTEP จะอยู่ในระดับสูงที่ US$31.0/BOE เพราะต้นทุนต่อหน่วยมักจะสูงในช่วงไตรมาสที่สี่
น่าจะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของโครงการ Mozambique Area 1 ในปีนี้
สถานการณ์ด้านความปลอดภัยในโครงการ Mozambique Area 1 ซึ่ง PTTEP ถือหุ้น 8.5% ดีขึ้น ทำให้กลับมาเดินหน้าเตรียมงานก่อสร้างได้ โดยคาดว่ายังจะสามารถเริ่มดำเนินการจัดส่ง LNG เชิงพาณิชย์ได้ใน 2H71F-1H72F ทั้งนี้ดูเหมือนว่าบริษัทจะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าในปีนี้ เพราะความล่าช้าเพียงเล็กน้อยของโครงการไม่ส่งผลกระทบกับมูลค่าโครงการมากนัก โดยในปัจจุบัน มีการทำสัญญา LNG offtake แล้ว 11.14 ล้านตันต่อปี (MTPA) คิดเป็น 85% ของ capacity ทั้งหมดที่ 13.1 MTPA
ทั้งนี้ PTTEP ได้มีการหารือกับ TotalEnergies ซึ่งยืนยันว่าผู้ซื้อทุกรายยังตั้งใจจะซื้อตามข้อตกลงที่ทำไว้ยกเว้นผู้ซื้อหนึ่งรายในอินโดนีเซียที่ปฏิเสธจะซื้อประมาณ 1 MTPA เพราะมีอุปทานในประเทศเพียงพอแล้ว โดย TotalEnergies จะรับซื้อส่วนนี้เอาไว้เอง
Valuation
เรายังคงคำแนะนำซื้อ PTTEP โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2568F ที่ 164.00 บาท โดยใช้ WACC
ที่ 8.8% และ terminal growth ที่ 1.0% ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงท่ามกลาง
ความกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจากกลุ่ม OPEC+ จะเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมเป็นต้นไป แต่เราคาดว่า
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ PTTEP จะน่าสนใจอยู่ในระดับสูงช่วง 7%-8% ในปี 2567F-2568F
ที่ระดับราคาหุ้นในปัจจุบัน โดยเราใช้สมมติฐาน DPS ปีนี้ที่ 10.50 บาท และปีหน้าที่ 9.10 บาท นอกจากนี้
กำไรของ PTTEP ในปี 2567F ยังอาจจะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกด้วย
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและก๊าซ