วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CPN ประมาณการ 3Q67F: คาดกำไรชะลอตัว
เรามองรายได้จากค่าเช่าและการบริการและรายได้จากโรงแรมจะทรงตัว QoQ แต่รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขายอาจลดลง 50% QoQ จากยอดขายโครงการคอนโด ฯ น้อยลง
ในแง่กำไรขั้นต้นโดยรวมอาจดีขึ้นเล็กน้อยจากธุรกิจห้างสรรพสินค้าและธุรกิจอสังหา ฯ เพื่อขาย โดยที่ส่วนแบ่งกำไรจากในเครือและบริษัทร่วมทุน (JV) ยังโตได้ดีจากผลการดำเนินงานโดดเด่นของห้างเมกาบางนา อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ น่าจะทำให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ราว 300 ล้านบาท ทั้งนี้ CPN มีการลงทุนในต่างประเทศและห้างสรรพสินค้าในมาเลเซียซึ่งใช้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยรวมแล้ว เราประเมินกำไร 3Q67F ที่ 3.97 พันล้านบาท (-5% YoY และ -13% QoQ) ดันกำไร 9M67 อยู่ที่ 1.27 หมื่นล้านบาท (+14% YoY) หรือคิดเป็น 76% ของประมาณการเต็มปีของเรา
อัพเดตธุรกิจ
การดำเนินงานของห้างสรรพสินค้ายังคงปกติดีหนุนจากห้าง ฯ นอกเขตกรุงเทพฯในเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว (49% ของพื้นที่ห้าง ฯ และ 42% ของรายได้จากค่าเช่า) มีผลการดำเนินงานสูงกว่าระดับก่อนโควิดมาก แต่ผลการดำเนินงานของห้าง ฯ ในกรุงเทพฯ ยังไม่กลับมาเป็นปกติ ส่วนรายได้จากโรงแรมอาจทรงตัว QoQ แม้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นก็ตามจากการเปิดโรงแรมฮิลตันระยองขนาด 200 ห้องในเดือนส.ค. 67 โดยที่โรงแรมต่าง ๆ ในเครือเซ็นทาราก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่ธุรกิจอสังหา ฯ เพื่อขายใน 3Q67F น่าจะชะลอตัวโดยพรีเซลทรงตัว QoQ ที่ 1.5 พันล้านบาท แม้ว่าธุรกิจโครงการคอนโด ฯ กำลังเดินหน้าดี แต่ธุรกิจโครงการแนวราบได้รับผลลบจากอัตราการปฏิเสธและการยกเลิกสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอยู่ราว30-40% (จากระดับ 20% ในปีที่แล้ว) พรีเซลใน 9M67 พุ่งขึ้น 72% YoY จากเพราะโครงการคอนโดเปิดใหม่ ๆยังขายดีแต่การโอนยังโตในอัตราที่ช้ากว่าที่ 17% YoY เนื่องจากโครงการแนวราบชะลอตัว
ไตรมาสที่ 4 โดยปกติเป็นช่วงฤดูกาลดีที่สุดของปี (peak season)
เราเชื่อว่าธุรกิจโรงแรมน่าจะฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ จากการดำเนินงานเต็มรูปแบบของโรงแรม 10 แห่ง โดยที่ยอดขายที่อยู่อาศัยน่าจะเพิ่ม QoQ ตามการรับรู้รายได้จาก backlog อย่างน้อย 1.15 พันล้านบาท
ส่วนธุรกิจห้าง ฯ หากจำนวนลูกค้าเข้าห้าง ฯ และผู้เข้ามาใช้บริการ (visitors) เกินกว่าเราคาดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในช่วง high season รายได้ค่าเช่าจากส่วนแบ่งรายได้ รายได้พวกงานอีเวนต์/งานโชว์ และการขาย F&B ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้รวมน่าจะมีกำไร ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของเรา หากรายได้กลุ่มดังกล่าวนี้เพิ่มขึ้น 10% กำไรสุทธิควรเพิ่มขึ้นราว 3.0-3.5%
Valuation & Action
ปัจจัยหลักหนุนการเติบโตปี 2568F จะมาจากการเปิดตัวโครงการ Dusit Central Park (อาคารสำนักงาน,
พื้นที่เช่าค้าปลีกและที่อยู่อาศัย) กับโรงแรมเซ็นทรัลกระบี่ ขณะที่ ราคาเป้าหมาย DCF ของเรา (ใช้ WACC ที่ 7.4% และ TG ที่ 2%) อยู่ที่ 80.00 บาท ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรและคำแนะนำซื้อ โดยปัจจุบัน CPN เทรดต่ำราว -1.5 S.D. ของค่าเฉลี่ย P/E ระยะยาว และ -1.0 S.D. ของค่าเฉลี่ย PB ระยะยาว
Risks
ความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP การแข่งขันที่แรงขึ้นจากห้างเปิดใหม่ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าไฟและค่าแรงงานขั้นต่ำ, ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้า