วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง EU PMI Mfg & Weekly
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways แนวต้าน 1,468/1,477 จุด แนวรับ 1,456 จุด (EMA 25 วัน)/1,447 จุด ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,273-1,716 จุด
ส่วนแนวโน้มระยะสั้น คาดเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ออกด้านข้าง หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีกลับมาเกิดสัญญาณซื้อ Buy Signal เป็นครั้งแรกรอบ 9 วันทำการ ตามด้วยแท่งเทียนขนาดเล็กเมื่อวันศุกร์ โดยมีสัญญาณบวก คือ การเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Bullish Trend ทั้งนี้ ทาง Tactical Play แนะนำ ทยอยซื้อเมื่อดัชนีฯ ต่ำกว่า 1,461 จุด
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
3Q24E Earnings Results: US โดย Consensus คาด AIG USD1.11 Vs Previous USD1.61; Mariott International USD2.31 Vs Previous USD2.11; Vertex Pharmaceutical USD4.08 Vs Previous USD3.97
Thailand: การคัดเลือกประธานกรรมการ ธปท. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน ที่หมดวาระ โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกเจ็ดคน
Thailand: คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจประชุมครั้งแรก จัดโดยคลัง
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
EU: HCOB Mfg PMI เดือน ต.ค. คาดอยู่ที่ 45.9 (Vs previous 45.0) และคาดจะเข้าสู่ภาวะขยายตัวในเดือน ธ.ค.
US: Factory Orders เดือน ก.ย. คาด -0.5% MoM (Vs Previous -0.2% MoM) และหากไม่รวมภาคขนส่ง จะเติบโต +0.1% MoM (Vs Previous -0.1% MoM)
Weekly Strategy: ซื้อเก็งกำไร หากดัชนีอยู่ในกรอบ 1,401–1,461 จุด
โอกาสที่ทรัมป์ จะชนะเลือกตั้งฯ และ ความเข้มงวดที่มากขึ้นในการประชุม FOMC จะผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์อยู่ในแนวโน้มแข็งค่า กดดันการไหลของออกของกระแสเงินทุนต่างชาติในไทยต่อเนื่องได้
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการปรับฐานของดัชนี SET ลงมาแล้ว 40 จุด (-2.7% จากจุดสูงสุดของเดือน ต.ค.) และ การฟื้นตัวของประมาณการ EPS +0.2% WoW มาที่ 99 บาท จึงทำให้อัตราผลตอบแทนตลาดหุ้นเทียบผลตอบแทนพันธบัตรฯ (Market risk premium) ฟื้นตัวต่อเนื่อง +9 bps.WoW มาที่ 4.33% ซึ่งใกล้เคียงกรอบล่างของการเก็งกำไรฝั่งซื้อ (Trading buy) ที่ MRP 4.36% (- 1 S.D.)
Strategic daily picks
AOT ปิด 61.75 บาท/แนวรับ 59.50 บาท แนวต้าน 64.00 บาท
KTX คาดกำไรปกติ FY2024-25E จะขยายตัว +99%/+30% YoY ขณะที่กำไรปกติ 4QFY2024E (ก.ค.-ก.ย. 2024) คาดเพิ่มขึ้น YoY จากจำนวนเที่ยวบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ลดลง QoQ จากผลกระทบการขอคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์ (ก.ค. 2024) และยกเลิก Duty Free ขาเข้า (ส.ค. 2024) ที่ทำให้รายได้ลดลงใน 4QFY2024E ที่ 567 ล้านบาท โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 68.00 บาท
KBANK ปิด 147.00 บาท/แนวรับ 142.00 บาท แนวต้าน 154.00 บาท
ธนาคารยังคงเป้าหมายปี 2024E ยกเว้น Loan growth อาจต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 3-5% ธนาคารยังเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง และดำเนินการเคลียร์งบดุลซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2024E นอกจากนี้ คาดว่า credit costs จะลดลงสู่ระดับปกติที่ 140-165 bps ขณะที่แนวโน้ม NIM ใน 4Q24E จะถูกกดดันจากการลดดอกเบี้ยนโยบาย โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 150.00 บาท
CRC ปิด 31.25 บาท/แนวรับ 28.75 บาท แนวต้าน 33.50 บาท
ในช่วง 2H4 ยังมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง ทั้งร้านไทวัสดุ 4 แห่ง GO Wholesale 3 แห่ง ศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม 3 แห่ง และซูเปอร์มาร์เก็ต go! 4 แห่ง ในเวียดนาม ทำให้การเติบโตในช่วง 2H24 ดีขึ้นจาก 1H24 จากการฟื้นตัวของกำไรที่เร่งตัวขึ้นใน 4Q24 รวมถึงยังได้รับผลดีจากยอดขายในอิตาลีเติบโต จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและยอดขายผ่าน Omnichannel ที่เพิ่มขึ้นด้วย โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 1.61 พันล้านบาท (+40.45% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 38.92 บาท