วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง TH Inflation & US PMI SERVICE
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways แนวต้าน 1,468/1,477 จุด แนวรับ 1,456 จุด (EMA 25 วัน)/1,450 จุด ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,273-1,716 จุด
ส่วนแนวโน้มระยะสั้น คาดเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ออกด้านข้าง หลังจากยังคงไม่มีสัญญาณชี้นำชัดเจน (สะท้อนจากการเกิดแท่งเทียนขนาดเล็กในวันศุกร์และวันจันทร์ หลังจากกลับมาเกิดสัญญาณฟื้นตัวแบบ V-shape เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกรอบ 9 วันทำการ) ผนวกกับ ตลาดรอความชัดเจนของ US Election ซึ่งเป็นตัวแปรหลักต่อการชี้นำทิศทางตลาดหุ้นโลก โดยคาดว่าจะทราบผลเช้าวันพุธ ทั้งนี้ ทาง Tactical Play แนะนำ ทยอยซื้อเมื่อดัชนีฯ ต่ำกว่า 1,461 จุด
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
3Q24E Earnings Results: US โดย Consensus คาด Marathon Petroleum USD1.04 Vs Previous USD8.14; YUM Brands USD1.42 Vs Previous USD1.44; Apollo Global Management USD1.73 Vs Previous USD1.10; Microchip Technology USD0.43 Vs Previous USD1.62
US Election: จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ หากทรัมป์ ชนะ และพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะทั้งสองสภา จะทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าต่อเนื่อง หนุนเงินทุนไหลกลับสหรัฐฯ
กฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ (Tax Cuts and Jobs Act: TCJA) คือ นโยบายสำคัญที่ช่วยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามขั้นบันได และ นิติบุคคล (ลดจาก 35% เหลือ 21%) ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุปสงค์ในสหรัฐฯ ยังคงความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวจะหมดอายุลงในปี 2025 ทั้ง 2 แคนดิเดต จึงได้แสดงจุดยืนต่อนโยบายดังกล่าว ดังนี้ (Figure 1)
ประมาณการผลกระทบต่อนโยบาย TCJA ของแคนดิเดตประธานาธิบดีสหรัฐฯ
o Harris มีแนวโน้มจะต่ออายุนโยบาย TCJA บางส่วน โดยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า USD400,000 และเพิ่มภาษี Corporate tax ขึ้นมาที่ 28% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีฐาน (ยกเลิกนโยบาย TCJA) จะกดดันให้รายได้ของรัฐบาล (การเก็บภาษี) ลดลงเพียงเล็กน้อยมาที่ 17.4% ของ GDP (Vs 18.0% ต่อ GDP) ทำให้การขาดดุลการคลังอาจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
o Trump มีแนวโน้มจะต่ออายุนโยบาย TCJA โดยจะช่วยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมดเหมือนเดิมในทุกกลุ่ม และปรับลดภาษี Corporate tax ลงมาเหลือ 15% ซึ่งจะกดดันให้รายได้ของรัฐบาล (การเก็บภาษี) ลดลงมาเหลือเพียง 16.4% ของ GDP เพิ่มโอกาสขาดดุลการคลังมากขึ้น เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป
ทั้งนี้ หากพิจารณาดัชนีวัดความนิยมเพื่อคาดการณ์ผู้ชนะเลือกตั้ง ณ เดือน ต.ค. (Figure 2) บ่งชี้ว่า Trump มีโอกาสชนะเลือกตั้งมากกว่า ซึ่งจะหนุนเศรษฐกิจภายในของสหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง (จากการลดภาษี) ผลักดันเงินเฟ้ออุปสงค์เร่งตัวขึ้น
ปัจจัยดังกล่าว อาจทำให้เฟดมีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า DOTPLOT คาดสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในทิศทางฟื้นตัว
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
Thailand: Inflation Rate / Core Inflation Rate เดือน ต.ค. คาดเพิ่มขึ้นเป็น +0.97% YoY/0.78% YoY (Vs Previous 0.61% YoY/0.77%YoY) สอดคล้องกับมุมมองของ สนค. ที่คาด 4Q24 เงินเฟ้อเฉลี่ย เพิ่มขึ้นเป็น 1.49% แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 1.25%YoY ทั้งนี้ เงินเฟ้อในช่วงปลายปีมีแนวโน้มสูงขึ้น จากผลพวงของสถานการณ์อุทกภัย ที่ทำให้พื้นที่เพาะปลูกพืชผักบางส่วนได้รับความเสียหาย จึงทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้านที่ราคาสูงขึ้น และปรับลดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อปี 2024 เป็น 0.2-0.8% (ค่ากลาง 0.5%) จากเดิมที่ 0.0-1.0% (ค่ากลาง 0.5%) ขณะที่โอกาสที่กนง. ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. มีความเป็นไปได้น้อย หลังจากผู้ว่าธปท. ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาไม่ใช่การเริ่มต้นการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
US: ISM รายงานภาคบริการเดือน ต.ค. คาดลดลงมาที่ 53.3 (Vs Previous 54.9) ส่วน S&P Global คาดรายงานภาคบริการเดือน ต.ค. อยู่ที่ 55.3 (Previous 55) และภาครวมผลิตและบริการเดือน ต.ค. อยู่ที่ 54.3 (Vs Previous 54.0); Trade Balance เดือน ก.ย. คาดขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น –USD71.9bn. (Vs Previous -USD70.4bn.)
หุ้นแนะนำวันนี้: แนะนำ ITC CPAXT INTUCH
Strategic daily picks
ITC ปิด 24.20 บาท/แนวรับ 23.70 บาท แนวต้าน 26.50 บาท
ผู้บริหารแสดงมุมมองเชิงบวกต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท โดยระบุว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 3Q24E อาจ ทรงตัว QoQ ในระดับที่น่าประทับใจ และมีแนวโน้มที่จะปรับเป้าหมาย GPM ในปี 2024E เป็น 26-28% จากเดิมที่ 24-26% โดย KTX คาดกำไรสุทธิ 982 ล้านบาท ใน 3Q24 (+52% YoY, -3% QoQ) และมูลค่าเหมาะสมปี 2025 ที่ 26.75 บาท
CPAXT ปิด 34.75 บาท/แนวรับ 32.50 บาท แนวต้าน 36.50 บาท
เบื้องต้น KTX คาด 3Q24E กำไรปกติโต 20%+ YoY และทรง-อ่อนลงเล็กน้อย QoQ โดยคาด SSSG ของ B2B โต 1-2% B2C โต 2-3% (ไทย โต 2-3% และมาเลเซียโต 5-7%) โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2025 ที่ 33.37 บาท อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 3.29%
INTUCH ปิด 105.00 บาท/แนวรับ 100.50 บาท แนวต้าน 112.00 บาท
บริษัทคาดผลการดำเนินงานใน 2H24 จะยังเติบโตได้ต่อเนื่องตามการดำเนินงานของ ADVANC ตามเศรษฐกิจที่มีโอกาสขยายตัวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ตอบรับมาตรการของภาครัฐ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่คาดจะเร่งตัวขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงท้ายของงบประมาณปี 2024 ขณะที่การควบรวมกับ GULF จะแล้วเสร็จภายใน 2Q25 Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 3.42 พันล้านบาท (+4.65% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 92.63 บาท