วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน
วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยได้รับ Sentiment เชิงลบ จากประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออก มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และไอซีที
ขณะที่มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และขนส่ง เป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,442.63 จุด -7.49 จุด -0.52% มูลค่าการซื้อขาย 48,853.08 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -22.06 จุด -1.51%) Program Trading -1,660.23 ลบ. ต่างชาติ -970.48 ลบ. TFEX -2,773 สัญญา ตราสารหนี้ -726.48 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่า สหรัฐฯไม่ต้องการทำสงครามเย็น และไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบของจีน โดยพันธมิตรของสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ ต่อต้านจีน
+ ออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาชิคาโกคาดการณ์ว่า FED อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในปีนี้ และลดลงอีก 1% ในปีหน้าตามที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
+ ก.คลัง เตรียมเสนอแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ของขวัญปีใหม่ช่วงสิ้นปีนี้ต่อเนื่องถึงตลอดทั้งปีหน้า เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีกำหนดประชุมพรุ่งนี้ 19
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 305.87 จุด หรือ -0.70% หลังจาก เจอโรม พาวเวล ประธาน FED บ่งชี้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจชะลอลงตัวลง และบรรดานักลงทุนประเมินการเลือกคณะรัฐมนตรีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.68 ดอลลาร์ หรือ -2.45% ปิดที่ 67.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงในจีน และแนวโน้มที่ FED จะชะลอปรับลด อัตราดอกเบี้ยลง
- CME FedWatch บ่งชี้ว่า บรรดานักลงทุนคาดการณ์เพิ่มขึ้น ว่า FED จะไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 42% เพิ่มขึ้นจาก 14% เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2568
- คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือระบุว่า เกาหลีใต้ส่งโดรนรุกน่านฟ้าเหนือกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุให้เกิดสงคราม
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากประธาน เฟด บ่งชี้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจชะลอลงตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,435-1,450 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA
• MSCI Rebalance (ใช้ราคาปิด25 พ.ย.) : MSCI Global Standard : เข้า - ออก SCGP MSCI Global Small Cap : เข้า CCET ออก TQM
• รัฐเตรียมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัย : CPALL CPAXT BJC TNP
หุ้นรายงานพิเศษ
TNP "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 5 บาท)
"กำไร 3Q67 ดีกว่าคาด 9% ส่วน 4Q67 คาดเติบโตต่อ YoY QoQ"
•งวด 3Q67 มีกำไร 47 ลบ. +41%YoY +12%QoQ (ดีกว่าที่เราคาด 9%) ส่วนรายได้อยู่ที่ 730 ลบ. +12%YoY +3%QoQ (ดีกว่าที่เราคาด 2%) เติบโตแม้เป็น Low Season ที่เป็นฤดูฝน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ทำให้มีการเร่งกักตุนสินค้าจำเป็นมากขึ้น ประกอบกับได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงินสด 10,000 บาท ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย. สะท้อน SSSG ที่เติบโต 1.8% รวมทั้งมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 สาขาสู่ทั้ง 47 สาขา (+5 สาขา YoY +2 สาขา QoQ) ทั้งนี้ 9M67 มีกำไร 135 ลบ. +25%YoY คิดเป็น 76% ของประมาณการทั้งปี 67 เดิมที่ 177 ลบ. +10%YoY
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อกำไร 3Q67 ออกมาดีกว่าที่คาด ส่วน 4Q67 คาดเติบโตต่อเนื่อง YoY QoQ จาก 3 ประเด็น คือ 1) เข้าสู่ High Season 2) ได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงินสด 10,000 บาท ที่กลุ่มผู้มีสิทธิ์เพิ่งได้รับเมื่อช่วงปลาย 3Q67 รวมทั้งรอบเก็บตกในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. และ 3) ขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้ นอีก 2 สาขา สู่ ณ สิ้นปี 67 ทั้งหมด 49 สาขา ทั้งนี้ เราเตรียมปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี 67 จากเดิมที่ 177 ลบ. +10%YoY แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 5 บาท
•ล่าสุดก.คลังเตรียมเสนอโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 (กลุ่มผู้สูงอายุ) เสนอที่ประชุมครม.ในวันที่ 19 พ.ย.นี และ คาดจะได้รับเงินดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.67-15 ม.ค.68 เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการช่วง 4Q67-1Q68
หุ้นมีข่าว
(+) BJC (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) หวังนโยบายแจกเงินหมื่น เฟส 2 ดันยอดซื้อของในบิ๊กซีคึกคัก พร้อมจัดแคมเปญ Big C Moment of Happiness กระตุ้นยอดขายขยายตัว 30% มั่นใจไตรมาส 4/2567 ผลงานดี หนุนทั้งปีรายได้โต พร้อมเดินหน้าปรับปรุงสาขาต่อเนื่อง แย้มจ่อปัดฝุ่นแผนดัน BRC เข้าระดมทุนขาย IPO คาดปี 2568 เชื่อจังหวะเหมาะสม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) DITTO (Bloomberg Consensus 23.00 บาท) ประมูลงานพรึ่บ ดันแบ็กล็อกสูง 5 พันล้านบาท ต่อเนื่อง โชว์ 9 เดือนปี 2567 กำไร 368 ล้านบาท ทะยาน 36% สูงกว่าทั้งปี 2566 แล้ว เดินเกมต่อยอดผนึก 3 พันธมิตรลุยแพลตฟอร์มสินเชื่อสำหรับอู่รถยนต์ ชี้มูลค่าสูงปีละ 3 หมื่นล้านบาท ขอยอด 3 พันล้านบาท ปีหน้า ชี้เป็นจุดเริ่มต้นใช้ดาต้าสร้างแพลตฟอร์มทำเงิน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BGRIM (Bloomberg Consensus 29.00 บาท) เดินแผนขยายพลังงานหมุนเวียนเกิน 50% ภายในปี 2573 และการลงทุนในตลาดต่างประเทศ โดยเน้นพลังงานสะอาดในเอเชีย, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และยุโรป ส่งสัญญาณ ปี 2568 ได้รับแรงขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น หนุนอุปสงค์ไฟฟ้าจากการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ และการเพิ่มกำลังการผลิตจากโครงการต่างๆ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) RBF (Bloomberg Consensus 6.85 บาท) โชว์งบไตรมาส 3/2567 มีรายได้ 1,083 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 109 ล้านบาท รับทรัพย์ยอดขายในประเทศจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่และค้าปลีกทั่วไปเพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าตามแผนการสร้างการเติบโต ลุยพัฒนาสินค้าใหม่ต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)