วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MALEE คงมุมมองเดิมในภาพใหญ่ปี 25F
เรามอง Neutral ต่อข้อมูลจากการประชุมกับบริษัทฯ ภาพอุตสาหกรรมในประเทศเติบโตดีราว 11% y-y ในขณะที่ Market share ของ MALEE ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทั้งในสินค้าน้ำผลไม้และน้ำมะพร้าว
คาด Outlook 4Q24F เป็น bottom ตามกรอบประมาณการเดิมของเราจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพื่มขึ้นหลังออกสินค้าน้ำมะพร้าวใหม่ ขณะที่ภาพรวมปี 25F กำไรเติบโต y-y โดยบริษัทฯ คงแนวโน้มการเติบโตรายได้ระดับ Double digit ภายใต้กลยุทธ์เติบโตจากสินค้า Brand ในตลาดต่างประเทศด้วยการบุกประเทศที่ MALEE มีความชำนาญเดิมจากการเป็น OEM อยู่แล้ว ส่งผลให้กำไรปี 25F จะอยู่ในรูปแบบ Step-up คือแนวโน้มจะเติบโต q-q ไปเรื่อยๆ และจะโดดเด่นสุดใน 4Q25F (เรียงจาก Q1 < Q2 < Q3 < Q4) คงคำแนะนำ Buy ที่ TP25F ที่ 17.7 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PER25F 24x ใกล้เคียงกลุ่ม ปัจจุบันซื้อขายบน PER25F 12 เท่า เทียบกับคู่แข่งอย่าง COCOCO ซึ่งซื้อขายที่ PER25F 14 เท่าอิง Consensus
ประเด็น
(i) ภาพอุตสาหกรรมระยะยาวยังเป็นเทรนด์บวกเติบโตเฉลี่ย 11% y-y อิงข้อมูลจาก Nielsen แบ่งเป็น i) กลุ่มน้ำผลไม้ระดับพรีเมียม MALEE ยังสามารถครองอันดับ 1 ได้อย่างต่อเนื่องจากสินค้าชูธง อย่างน้ำส้มและน้ำแอปเปิ้ลคิดเป็น Market share 24% จากการเน้นทำการตลาดรูปแบบใหม่ ชูสาระสำคัญในสินค้า (มะพร้าว, น้ำส้ม และเตรียมโปรโมทในกลุ่มแอปเปิล) ii) ด้านน้ามะพร้าว MALEE ปัจจุบัน 3Q24 เป็นอันดับ 2 และมีแนวโน้มจะเติบโตแซงอันดับที่ 1 ในอนาคต
(ii) Outlook 25F: บริษัทฯ มองทั้งรายได้และกำไรเติบโต y-y จากปี 24F เน้นทั้งสินค้าแบรนด์ และ OEM i) โดยสินค้าแบรนด์ จะบุกตลาดต่างประเทศจริงจังในกลุ่มประเทศที่บริษัทเปิดตลาดไว้แล้ว (จีน, เกาหลี) โดย MALEE เป็นผู้ส่งออกสินค้าแบรนด์น้ำมะพร้าวจากไทยไปจีนและเกาหลีเป็นอันดับ 9 และ 1 ตามลำดับ ด้วยการวาง Position เป็นสินค้า Premium mass ภายใต้จุดขายคือความเป็นสินค้าจากประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการคัดเลือก Distributor สำหรับ ii) งาน OEM ยังตามแผน โดยลูกค้าใหม่ 2 รายใหญ่ จะเข้าใน
2Q25F-3Q25F และจะขึ้นเป็น Top5 ของงาน OEM ซึ่งเรามองบวกต่องาน OEM จะช่วยสร้างการเติบโต และอีกทางหนึ่งช่วย Balance ผลประกอบการในช่วงที่บริษัทบุกสินค้าแบรนด์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสร้างแบรนด์ช่วงแรก
(iii) SG&A ใน 4Q24F-1H25F เป็นแนวโน้มขาขึ้นจากการลงทุนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศผ่านโฆษณาทั้งช่องทาง Online, สื่อนอกบ้านและวิทยุ ทำให้ในแง่ของ Amount จะสูงขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังมีแผนควบคุม SG&A to sales เพื่อ Maintain ภาพรวม ด้วยการใช้ประโยชน์จากการเพิ่ม Efficiency หลังบ้านด้วย Synergy จากการควบรวมกับ ABICO ซึ่งยังมี Room สำหรับการลดต้นทุนอยู่ทั้งในแง่ของต้นทุนคนรวมถึงระบบหลังบ้าน (vs เรากำหนด SG&A/Sales 14.6% และ 14.2% ปี 2024-25F)
(iv) การขาดแคลนสินค้า MALEE COCO ใน 7-11 ในช่วงต้นเดือนพ.ย. เกิดจากการขาดแคลนสินค้าหลังมีปัญหาเครื่องจักรทำให้ต้องหยุดการผลิตไปราว 1 สัปดาห์ประกอบกับยอดขายสินค้าในสาขาใกล้เมืองเติบโตสูงในช่วงที่มีการออกโฆษณา และในปัจจุบันบริษัทฯ กลับมาผลิตตามปกติแล้ว
(v) Inventory ที่เพิ่มขึ้นใน 3Q24 เกิดจากการเตรียม Raw material สำหรับธุรกิจผลไม้กระป๋องเพื่อผลิตปี 2025F ซึ่งปีนี้มีผลกระทบสินค้าขาดในช่วง 1H24
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมอง Neutral ต่อข้อมูลจากการประชุมกับบริษัทฯ มองกำไร 4Q24F ลดลง y-y, q-q เป็น Bottom ของปีตามกรอบประมาณการเดิมจากค่าใช้จ่าย SG&A ซึ่งจะเป็นช่วงลงทุน Marketing เพื่อสร้างการเติบโตของ New product ในกลุ่มน้ำมะพร้าว และกระตุ้นยอดสินขายสินค้าเดิมจากกลุ่มน้ำส้มและน้ำแอปเปิ้ล ขณะที่แนวทางการเติบโตระยะยาวในปี 25-26F คงมุมมองกำไรเติบโตเฉลี่ยราว 21% CAGR โดยการเติบโต q-q ปี 25F จะอยู่ในรูปแบบ Step-up คือแนวโน้มจะเติบโต q-q ไปเรื่อยๆ และจะโดดเด่นสุดใน 4Q25F (เรียงจาก Q1 < Q2 < Q3 < Q4) จากการทำการตลาดต่อเนื่องถึง 1H25F
- เราคงคำแนะนำ Buy MALEE ที่ TP25F ที่ 17.7 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PER25F 24 เท่า ใกล้เคียง PER ของกลุ่มเครื่องดื่มที่ 23 เท่า และหากคิดบน PEG จะเทียบเท่ากับ 1.2 เท่า บนการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ 21% ต่อปี ทำให้มี discount จากกลุ่ม (SAPPE, ICHI, CBG, OSP) ที่ PEG เฉลี่ย 1.5 เท่าและเติบโต 15% ต่อปี มองหุ้นมีความน่าสนใจจากภาพธุรกิจถึงรอบฟื้นตัว และมีแบรนด์สินค้าเด่นหลายกลุ่มโดยเฉพาะน้ำมะพร้าว