เวสต์เทกซัส 71.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 74.64 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (2 ม.ค. 68) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขภาคการผลิตของจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเดือน ธ.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 50.1 โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่สูงกว่า 50 เป็นเดือนที่สามติดต่อกัน สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการผลิตในจีนอย่างต่อเนื่อง
(+) สถานการณ์ในยุโรปตะวันออกยังคงตึงเครียด หลังล่าสุดสหรัฐฯ อนุมัติงบประมาณการช่วยเหลือด้านทหารและด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ครั้งใหม่ราว 5,900 ล้านดอลลาร์ โดยงบประมาณรวมที่ช่วยเหลือยูเครนจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งขึ้นในปี 2565 อยู่ที่ราว 30,000 ล้านดอลลาร์ การผ่านงบครั้งล่าสุดมีขึ้นก่อนการรับตำแหน่งของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. 67 นี้
(-) Reuters Poll ปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2568 มาอยู่ที่ระดับ 74.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า 0.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และปรับลดลงจากราคาเฉลี่ยปี 2567 ที่ระดับ 79.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังคาดอุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคซึ่งนำโดยสหรัฐฯ และแคนนาดา ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันยังคงเผชิญความไม่แน่นอนจากภาคเศรษฐกิจจีน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ตลาดได้รับแรงกดดันจากประมูลขายน้ำมันเบนซินของประเทศอินโดนีเซียสำหรับส่งมอบในเดือน ม.ค. 68 นอกจากนี้ตลาดยังคงได้รับแรงกดดัน ภายหลังโรงกลั่นแห่งหนึ่งของซาอุดิอาระเบียเตรียมเลื่อนแผนการซ่อมบำรุงจากเดือน มี.ค. 68 เป็นช่วงไตรมาสที่ 3/68
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดอุปสงค์มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จากอุณหภูมิในยุโรปที่มีแนวโน้มปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดัน หลังสต็อกน้ำมันเบนซินคงคลังยุโรป ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 27 ธ.ค. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 4.2% สู่ระดับ 2.21 ล้านบาร์เรล
