YLG มอง"ทองคำดิจิทัล"สภาทองคำโลก ลบจุดแข็งสินทรัพย์จับต้องได้

YLG มอง"ทองคำดิจิทัล"สภาทองคำโลก ลบจุดแข็งสินทรัพย์จับต้องได้

YLG มอง"ทองคำดิจิทัล" ของสภาทองคำโลก ทำให้การซื้อขายทองคำสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง แต่ลบจุดแข็งสินทรัพย์จับต้องได้ รวมทั้งต้องได้รับความร่วมมือจาก Bullion banks

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า ย้อนไปถึงเรื่อง World Gold Council (WGC) ซึ่งเป็นผู้ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการผลักดันตลาดทองคำตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการจัดตั้ง WGC ขึ้นในปี 1987

โดย WGC มีวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายในระยะยาวที่ถูกเรียกว่า Gold 247 ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อพลิกโฉมตลาดทองคำโลกให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและนักลงทุน  เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดทองคำยังคงตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคขั้นสุดท้าย ผู้ให้บริการทางการเงิน และหน่วยงานกำกับดูแล

ความพยายามครั้งล่าสุดของ WGC คือการ reform ตลาดทองคำที่มีมูลค่าตลาดหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ยุคที่เรียกว่า Web3 ด้วย Blockchains และ tokens

ยุคปัจจุบันของอินเทอร์เน็ต เรียกว่า  Web 2.0 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกันได้ 2 ทาง (Two Way Communication) แต่เป็นการสื่อสารผ่าน ‘ตัวกลาง’ ซึ่งทำให้ข้อมูลการสื่อสารไม่เป็นข้อมูลส่วนตัว  ทำให้การพัฒนาเป็น Web 3.0 ในที่สุด
Web 3.0 เป็นยุคใหม่ของอินเทอร์เน็ต ที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Big Data, Artificial Inteligence (AI), Blockchain เข้ามามีบทบาทมากขึ้น  

ทำให้เป็นยุคใหม่ที่ไร้ตัวกลาง(Decentralized) มีการกระจายอำนาจผู้ใช้งานไม่ต้องผ่านเซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์มใด ๆ  และสามารถตรวจสอบความถูกต้องกันเองระหว่างผู้ใช้ได้ ทำให้มีความโปร่งใสมากขึ้น

ขั้นตอนต่อไปใน Project นี้  คือ  การสร้าง digital tokens ที่หนุนด้วยทองคำจริง ซึ่งนับว่าเป็นความพยายามควบรวมระหว่าง digital tokens และทองคำเข้าด้วยกันผ่านเทคโนโลยีBlockchains

ทำให้ Project นี้  มีข้อดี  คือ  ผู้ซื้อ-ขายสามารถตรวจสอบทองคำแท่งแทบทุกแท่งในโลกได้ซึ่งเพิ่มความโปร่งใสให้ตลาดทองคำมากยิ่งขึ้น  และอาจทำให้การซื้อขายทองคำสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง  

อย่างไรก็ดี  ด้วยความพยายามในการ reform ตลาดทองคำเข้าสู่ยุค Web3 จำต้องมีการลงทุนด้านระบบเพิ่มเติมซึ่งอาจทำให้การซื้อขายทองในรูปแบบดังกล่าวมีต้นทุนมากขึ้น  จนกลายเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ  

นอกจากนี้  ความพยายามในการเปลี่ยนทองคำเป็นทองคำดิจิทัล  อาจลบจุดแข็งที่เคยทำให้ทองคำมีความแตกต่างจากสินทรัพย์ดิจิทัล คือ เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ (Tangible Asset)

ทั้งนี้  WGC ระบุว่า Project จะเริ่มต้นในตลาดทองคำแท่งลอนดอนที่เป็นตลาดทองคำที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งมีการซื้อขายทองคำราว 50,000 แท่งในทุกๆวัน  และมี Bullion banks 4 แห่ง  ได้แก่ HSBC, ICBC Standard Bank, JP Morgan และ UBS เป็นผู้ดูแลการทำธุรกรรมเสมือนเป็นตัวกลาง

อย่างไรก็ตาม  ในมุมมองของ YLG การทำ Project นี้จะประสบความสำเร็จได้  จำเป็นที่จะต้องโน้มน้าว Bullion banks ขนาดใหญ่ซึ่งถือว่าเป็น “ตัวกลางสำคัญ” ในการซื้อขายทองคำในปัจจุบันให้เข้ามามีส่วนร่วมใน Project นี้  ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมากเพราะ Bullion desk เป็นอีกหนึ่งช่องทางการทำกำไรของ Bullion banks

ล่าสุด Bloomberg รายงานว่า  JPMorgan Chase & Co. และ HSBC Holdings Plc ซึ่งเป็น Bullion banks ที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วม Project นี้ซึ่งทำให้ Project นี้มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น

 YLG Group มีการพัฒนาการซื้อขายของทองคำในรูปแบบต่างๆเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ  และด้วยพฤติกรรมของนักลงทุนทองคำในไทยยังคงถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน  ได้แก่  นักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำกายภาพที่จับต้องได้  อีกส่วนหนึ่งคือนักลงทุนที่ลงทุนทองคำในตลาดอนุพันธ์

ทำให้ YLG ได้ทำการยกระดับระบบเทรดทอง ด้วยการเปิดตัว แอปพลิเคชั่นใหม่ "YLG Gold Investment" ชูจุดเด่นที่เทรดทองได้ 5 สกุลเงินไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดอลลาร์, หยวน, สิงคโปร์ดอลลาร์, ยูโร และเงินบาท เน้นเรื่องความปลอดภัยและ เพิ่ม Security ในการจัดส่งทองคำ ผ่านระบบยืนยันตัวตน OTP ปลอดภัย รัดกุม และสะดวกรวดเร็วมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถกำหนดวันเวลาในการรับส่งทองได้ด้วยตนเอง

พร้อมกันนี้ YLG Futures ยังเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนทองคำในตลาดอนุพันธ์ด้วยการร่วมกับ  CME Group เป็นตลาดอนุพันธ์ที่มีความหลากหลายและใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้นักลงทุนทองสามารถการลงทุนทองคำในตลาดGlobalmarket ซึ่งมีสภาพคล่องสูง อีกทั้งยังลงทุนได้เกือบ 24 ชั่วโมงแม้ในวันหยุดของไทย  ผ่านระบบซื้อขายชั้นนำและยอดนิยมทั้ง MT5 และ CQG

ในอนาคต  YLG มีการศึกษาแนวทางในการพัฒนารูปแบบการลงทุนทองคำในรูปแบบดังกล่าว แม้ Web 3.0 ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาดทองคำในประเทศก็ตาม อย่างไรก็ดี YLG กำลังวางแผนที่จะพัฒนาระบบการซื้อขายด้วยการนำเอา Big Data และ Artificial Inteligence (AI) เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของนักลงทุนในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนทองคำได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
คำแนะนำผู้ลงทุนทองคำ สำหรับการเทรดรูปแบบนี้
ผู้ลงทุนทองคำ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม  ควรเริ่มต้นประเมินตนเองว่ามีเงินลงทุนจำนวนเท่าใด และรับความเสี่ยงได้น้อยเพียงใดก่อนเริ่มต้นลงทุน เพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้นว่าเหมาะกับการเทรดรูปแบบนั้นๆหรือไม่

นอกจากนี้  ต้องมีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดพร้อมจัดสรรเงินทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและเงินทุนของตนเอง(Money Management) ที่สำคัญ  คือ  ต้องมีวินัยในการลงทุนซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนทองคำได้ทุกรูปแบบได้ประสบความสำเร็จ