‘คริปโทฯ’ การลงทุนยอดฮิตเด็ก ‘Gen Z’ นักวิเคราะห์เตือน ระวัง ‘ความเสี่ยงสูง’

การศึกษาของ Finra-CFA (Institute CFA Institute and Financial Industry) มูลนิธิการศึกษานักลงทุนของหน่วยงานกำกับดูแลบริษัทในเครือของหน่วยงานเฝ้าระวังการกำกับดูแลตนเองของอุตสาหกรรมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสถาบัน CFA เปิดเผยว่า คริปโทเคอร์เรนซี  เช่น บิตคอยน์ (bitcoin) และ อีเธอเรียม (ethereum) เป็นการลงทุนที่นักลงทุน Gen Z ถือครองมากที่สุด 

นั่นอาจเป็นเพราะ กลุ่มเติบโตขึ้นท่ามกลางยุคของโซเชียลมีเดีย การเติบโตทางเทคโนโลยี และการเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

ที่ปรึกษาการลงทุนหลายแห่งกล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว คริปโทฯ ควรเป็นเพียง 1% ถึง 3% ของพอร์ตการลงทุนของนักลงทุน หรือไม่เกิน 5% ของพอร์ต

โดยคริปโทฯ เป็นการลงทุนที่พบบ่อยที่สุดโดยนักลงทุน Gen Z แนวโน้มมาจากการเป็นกลุ่มคนที่เติบโตในช่วงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สื่อสังคมออนไลน์ และการเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายขึ้น

ในขณะที่คนหนุ่มสาวสามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับคนรุ่นเก่า โดยการใช้คริปโทฯ เป็นแกนหลักในพอร์ตการลงทุน 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงเนื่องจากความผันผวนของคริปโทฯ

55% ของนักลงทุน Gen Z ในปัจจุบันลงทุนใน คริปโทฯ 

Gen Z คือ กลุ่มที่เกิดในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ซึ่งหมายความว่าสมาชิกที่มีอายุมากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 20 กลางๆ  โดยรายงานดังกล่าวอิงจากการสำรวจออนไลน์ของผู้คนในสหรัฐ ที่มีอายุระหว่าง 18-25 ปี

พบว่า 55% ของนักลงทุน Gen Z ในปัจจุบันลงทุนใน “คริปโทฯ” ตามด้วยอันดับที่ 2 คือ หุ้นรายตัว คิดเป็น 41%  ตามมาด้วยอันดับที่ 3 คือ กองทุนรวม 35%  อันดับที่ 4 คือ NFT 25% และกองทุนรวมดัชนี (ETF)  หรือ Exchange Traded Fund 23%

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว “กองทุนรวม” เป็นการถือครองส่วนใหญ่ในหมู่นักลงทุน Gen X โดยร้อยละ 47 ถือกองทุนรวม ตามมาด้วยหุ้นรายตัว 43% และสกุลเงินดิจิทัล 39%

เจอร์รี วอลช์ (Gerri Walsh) ประธานมูลนิธิ  Finra-CFA  กล่าวว่า 

นักลงทุน Gen Z ส่วนใหญ่ลงทุนในบิตคอยน์ และอีเธอเรียม และหุ้นรายตัว อาจทำให้เกิดความกังวลในการลงทุน หากนักลงทุนไม่ได้พิจารณา และสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดี

ลงทุนคริปโทฯไม่เกิน 3% ของพอร์ต

Gen Z เป็นรุ่นแรกที่เติบโตในยุคของเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย ทำให้การบริโภคข้อมูล รวมถึงคำแนะนำการลงทุนจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น TikTok และ Instagram เข้าถึงได้อย่างง่ายดาย 

เจนกิน(Jenkin) ผู้ก่อตั้ง oXYGen Financial และสมาชิกสภาที่ปรึกษาของ CNBC กล่าวว่า การที่สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถลงทุนในจำนวนเงินที่ไม่มีขั้นต่ำ ทำให้นักลงทุน Gen Z สามารถเข้าถึงการลงทุนได้มากขึ้นผ่านแอปพลิเคชันการลงทุน ในขณะเดียวกันยังเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Alphabet, Apple และ Meta อาจนำไปสู่ความเชื่อมั่นในระดับสูง ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล

ทั้งนี้ เจนกิน ยังให้ความเห็นว่า คริปโทฯ สามารถมีบทบาทในพอร์ตการลงทุนได้ โดยเฉพาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูงได้ แต่อย่างไรก็ตามควรมีข้อจำกัดสำหรับคริปโทฯ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่ควรมากกว่า 3% ของพอร์ตการลงทุน พร้อมกับแนะนำว่านักลงทุนควรพิจารณาเลือกการลงทุนระยะยาวที่สามารถถือไว้อย่างน้อย 10 ปี

โดย 46% ของนักลงทุน Gen Z ในสหรัฐยินดีรับความเสี่ยงทางการเงินจำนวนมากหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ย

 

อ้างอิงCNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์