ท่ามกลางกระแส AI ที่มาแรง ตลาดเกิดฟองสบู่หรือยัง

ท่ามกลางกระแส AI ที่มาแรง ตลาดเกิดฟองสบู่หรือยัง

เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโลกอย่าง AI เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนหลายฝ่ายกังวลว่าตลาดได้เข้าสู่ภาวะฟองสบู่หรือยัง อย่างไรก็ตามการลงทุนใน AI คือเกมระยะยาว และ StashAway ยังมองเห็นโอกาสที่น่าสนใจในเทรนด์ที่มาแรงนี้

เบื้องหลังการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี

สาเหตุของการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยมหภาค ได้แก่ การที่ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะหยุดวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น รวมถึงสภาพคล่องที่ดีขึ้น หลังธนาคารกลางต่างๆ เร่งเยียวยาสถานการณ์ความวุ่นวายในกลุ่มธนาคาร และนักลงทุนที่ต่างเริ่มหันมาหลบภัยในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งถือเงินสดจำนวนมหาศาล

ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนมากได้เข้าไปลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากหุ้น Microsoft ที่ปรับตัวขึ้น 40% ในปีนี้ เนื่องจากผลกำไรที่แข็งแกร่ง รวมถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มองว่าการลงทุนใน OpenAI ซึ่งเป็นผู้พัฒนา ChatGPT จะส่งผลให้กำไรในอนาคตของบริษัทเติบโตมากขึ้นไปอีก ขณะที่หุ้นของผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia พุ่งสูงขึ้นเกือบ 200% แล้วตั้งแต่ต้นปี เพราะนักลงทุนเชื่อว่าผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากการเติบโตของ AI

แต่หากเราไม่นับหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น ผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 จะอยู่ในลักษณะแบนราบหรือติดลบด้วยซ้ำ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของ Nasdaq ซึ่งเป็นดัชนีที่มีบริษัทเทคโนโลยีเป็นส่วนประกอบสำคัญ ผลตอบแทนจะลดเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

ข้อมูลตลาดโดยรวมยังไม่ได้อยู่ในฟองสบู่

ความตื่นเต้นกับ AI ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ที่จะช่วยให้บริษัททำกำไรมากขึ้นได้ในอนาคต เห็นได้จากค่า P/E ล่วงหน้า 12 เดือน ของ Microsoft เพิ่มสูงขึ้นถึง 35 เท่า ส่วน P/E ล่วงหน้า 12 เดือนของ Nvidia เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขึ้นไประดับสูงสุดที่เกือบ 65 เท่า

ความร้อนแรงของราคาหุ้นทำให้นักลงทุนบางส่วนกังวลเรื่องภาวะฟองสบู่ แต่ข้อมูลตลาดโดยรวมแสดงให้เห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น และยังอยู่ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยค่า P/E ล่วงหน้า 12 เดือนของดัชนี Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 28 เท่า ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นไม่มากจากจุดต่ำสุดเมื่อปีที่แล้วที่ระดับ 20 เท่า โดยค่าดังกล่าวต่ำกว่าระดับสูงสุดครั้งล่าสุดในปี 2021 ที่ 32 เท่า และยังต่ำกว่าระดับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงฟองสบู่ดอทคอมที่ 75 เท่า อยู่มาก ส่วนดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 20 เท่า ซึ่งไม่ไกลจากค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 18 เท่า

AI คือ เกมระยะยาว

การนำ AI มาใช้ยังนับว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของกราฟ S-curve ซึ่งแสดงถึงเส้นทางการเปิดรับเทคโนโลยีมาใช้ (Adoption) โดย AI นั้นได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของ Early Adopters ซึ่งก็ใกล้ถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรามองว่า AI มีโอกาสเติบโตอีกมาก และเทรนด์นี้ คือ เกมระยะยาวสำหรับนักลงทุน

หากคุณสนใจการลงทุนใน AI โดยเฉพาะ Flexible Portfolio ของเรา มีประเภทสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจนี้ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง หรือเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่ธีม Technology Enablers ใน Thematic Portfolio ของเรา ยังมีการลงทุนที่เน้น AI และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับ ‘สินทรัพย์ปรับสมดุล’ เช่น ทองคำ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากตลาดขาลงได้ด้วย

ช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจก่อให้เกิดความท้าทายในหลายๆ ด้าน แม้ในท้ายที่สุด เทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของพวกเราดีขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจดึงดูดให้นักลงทุนบางกลุ่มทุ่มเงินก้อนใหญ่ลงไปในเทรนด์นี้ แต่เราเชื่อว่าการ Stay Invested ในพอร์ตที่มีการกระจายการลงทุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นกลยุทธ์แห่งชัยชนะในยุคสมัยของ AI

ท่ามกลางกระแส AI ที่มาแรง ตลาดเกิดฟองสบู่หรือยัง

 

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน