BTC Halving ทำให้ราคาบิทคอยน์ขึ้นจริงหรือเป็นแค่เรื่องลวงโลก?
ในอดีตนั้นบิทคอยน์ (“BTC”) จะได้มาจากการขุดที่มาจากการตรวจสอบธุรกรรมในระบบบล็อกเชน ซึ่งในการขุด 1 บล๊อก ผู้ขุดหรือผู้ยืนยันธุรกรรมจะได้รับ BTC จำนวน 50 เหรียญเป็นค่าตอบเเทน
แต่เนื่องด้วยจำนวน BTC มีจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ หากทำการขุดไปเรื่อย ๆ BTC จะถูกขุดขึ้นมาหมดในเวลาไม่นาน จึงเป็นสาเหตุให้ Satoshi Nakamoto บุคคลนิรนามผู้คิดค้น BTC ได้คิดการ Halving ขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ต้องการให้ BTC เฟ้อจนเกินไป และในขณะเดียวกันก็เพิ่มมูลค่า BTC ได้อีกด้วย
Halving คืออะไร?
Halving เป็นการลดผลตอบเเทนของการขุดลงครึ่งหนึ่ง กล่าวคือเริ่มเเรกผู้ขุดจะได้รับ 50 BTC ต่อการขุดหนึ่งบล็อกเป็นค่าตอบเเทน เมื่อเกิดการ Halving ขึ้น ผลตอบแทนจะลดลงเป็นครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 25 BTC ต่อการขุดหนึ่งบล็อก โดยปริมาณจะลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี โดยปัจจุบันการ Halving เกิดขึ้นรอบที่ 3 ล่าสุดในปี 2020 ทำให้การขุดหนึ่งครั้งจะมีผลตอบแทนเหลือ 6.25 BTC และทุกครั้งหลังจาก Halving มูลค่าของ BTC จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยการ Halving ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งประมาณการว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 เมษายน และจะทำให้ BTC ที่จะได้รับต่อการขุดหนึ่งบล็อกเหลือเพียง 3.125 BTC เท่านั้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ Demand ของ BTC จะอยู่ในระดับเท่าเดิม แต่ฝั่ง Supply ของ BTC ที่เกิดใหม่จะลดลงอย่างกระทันหัน ซึ่งมักเป็นกลไกที่เป็นที่มาของการปรับตัวขึ้นของราคา BTC ในอดีต
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการปรับตัวขึ้นของราคา BTC นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดจากการ Halving แค่เพียงอย่างเดียว แต่การปรับขึ้นของราคานั้นมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Macroeconomic ปัจจัยในเรื่องของความเชื่อมั่น ปัจจัยในเรื่องของการยอมรับ และอื่นๆ
ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าการมาของ Halving จะทำให้ราคา BTC ปรับขึ้นทันที แต่เป็นไปได้ว่า Selling pressure ของนักขุดจะลดลง ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการเกิด Halving โดยตรง และในขณะเดียวกันก็อาจทำให้นักขุดจำนวนมากต้องออกจากตลาดไป เนื่องจากเหมืองขุดต้องรับมือกับต้นทุนที่เกิดจากค่าไฟฟ้าและภาระอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น
โดยคุณ Mellerud นักวิเคราะห์การขุด cryptocurrency ที่ Hashrate Index กล่าวกับ Bloomberg ว่าราคาค่าไฟฟ้าที่คุ้มทุนของเครื่องขุดทั่วไปคาดว่าจะลดลงจาก $0.12 /kWh เป็น $0.06/kWh หลังจาก halving อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าประมาณ 40% ของนักขุด BTC ทำงานด้วยต้นทุนที่สูงกว่า $0.06/kWh ทำให้นักขุดที่มีต้นทุนการดำเนินงานสูงกว่า $0.06 kWh มีแนวโน้มที่จะขาดทุน
หากพิจารณาจากข้อมูลในอดีต หลังจาก Halving แต่ละครั้ง ราคาของ BTC มีการปรับตัวขึ้นก็จริง แต่เปอร์เซ็นต์การปรับตัวขึ้นในแต่ละครั้งเริ่มมีค่าน้อยลงเรื่อยๆ
โดยอ้างอิงจาก Cointelegraph เว็บไซต์ Research ด้าน cryptocurrency ชื่อดังได้เปิดเผยราคาในการ Halving ครั้งแรก BTC ปรับตัวขึ้นถึง 9,212% แต่ในครั้งที่สองลดลงเหลือ 2,910% และในครั้งล่าสุดลดลงเหลือ 679% ดังนั้น การปรับตัวขึ้นหลังจาก Halving ในครั้งถัดไปอาจจะมีการปรับตัวขึ้นก็เป็นได้ แต่การปรับตัวขึ้นอาจไม่ได้สูงเทียบเท่ากับอดีตตามข้อมูลสถิติดังกล่าว
Pantera Capital มีมุมมองว่ามีโอกาสที่ BTC จะปรับตัวขึ้นในขาขึ้นรอบใหม่ไปถึงจุดสูงสุดที่ราคา 147,843 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการปรับตัวขึ้นจากราคาวันที่เกิด Halving ซึ่งคำนวณโดยใช้ Model ราคาในอดีต อ้างอิงกับ Stock to Flow ratioโดยจะเป็นการปรับตัวขึ้นที่น้อยที่สุดในทุกๆรอบที่ผ่านมา
ดังนั้นจึงต้องมาจับตาดูกันว่าหลังจาก Halving ราคาของ BTC จะเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยของราคา BTC ยังมีตัวแปรอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการเงินของธนาคารกลาง ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค และการนำระบบ Bitcoin ไปใช้ประโยชน์ในระดับธุรกิจ