สางปม Zipmex เสนอจ่ายหนี้แค่ 3.4% จากทั้งหมด ประกาศหยุดเทรดไร้วี่แววคืนเงิน
จากวิกฤตโดมิโนเอฟเฟกต์ในวงการคริปโทจนถึงปัจจุบัน กินเวลาเกือบ 2 ปีที่ผู้เสียหายมากกว่า 70,000 คน มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านบาท หลังจาก “Zipmex Thailand” ระงับถอนเงินบาท ซึ่งนักลงทุนเรียกร้องความเสียหาย หนำซ้ำยังไม่ได้รับเงินคืนจากการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มครบถ้วน 100%
เว็บไซต์คอยน์เทเลกราฟ รายงานว่า Zipmex บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทของไทยกำลังเตรียมข้อเสนอชำระหนี้แก่ลูกค้าที่มีมูลค่ารวมกัน 97 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.4 พันล้านบาท
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก( Bloomberg )รายงานว่า ซิปเม็กซ์อาจเพิ่มยอดการชำระหนี้คืน จาก 3.4% ซึ่งเป็นมูลค่า 3.35 เซนต์ หรือ 1.22 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เป็น 28.5% ซึ่งเป็นมูลค่า 29.35 เซนต์หรือราว 10 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงื่อนไข “ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัว”
ในทางกลับกันพบว่ามีรายงานว่าเจ้าหนี้รายใหญ่ของ Zipmex ไม่เห็นด้วยกับโครงการที่เสนอ และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบหนี้สินของบริษัทโดยอิสระ รวมทั้ง มาร์คัส ลิม ซีอีโอของซิปเม็กซ์ปฏิเสธที่จะยืนยันรายละเอียดที่อ้างถึงของโครงการปรับโครงสร้าง แต่กล่าวถึงตัวเลขดังกล่าวที่นักข่าวรายงานนั้นว่า "ไม่ถูกต้อง"
ปล่อยลอยแพนักลงทุน?
แหล่งข่าวจาก Zipmex ออกมากล่าวถึงความไร้ "ประสิทธิภาพ" และธรรมาภิบาลในการบริหารธุรกิจคริปโทของบริษัท โดยระบุว่าในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน นั้น Zipmex มีการติดต่อกับนักลงทุน หรือ กลุ่มทุนไทย ในการถ่ายสินทรัพย์จาก zipmex ประเทศไทย ไปยัง zipmex สิงค์โปร
ผ่านเรื่องราว"สตอรี่"ว่าส่วนเงินที่พร่องหายไปนั้น มาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเข้าไปลงทุนใน Babel Finance ทั้งที่ในความเป็นจริงข้อมูลทางการเงินเมื่อเทียบเคียงกันแล้ว
เพราะเมื่อย้อนไปในเดือน ก.ค.65 ทาง Zipmex เคยออกแถลงชี้แจงตัวเลขเงินที่เข้าไปลงทุนใน Babel และ Celsius และระบุว่าอยู่ระหว่างการประเมินทางเลือกตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าสำเนาทางบัญชีของเม็ดเงินกลับไม่ตรงกับ Babel อย่างที่ Zipmex กล่าวในตอนแรก
นอกจากนี้ ยังพบว่า"ผู้บริหาร"ของ Zipmex มีการถ่ายโอนถอนทรัพย์สินใน Zwallet ออกไปกว่า 350 ล้านบาท ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีการ lock การถอนเงินใน Zwallet ซึ่งเท่ากับว่ารู้อนาคตจะเป็นอย่างไร จึงต้องรีบชิ่งหนีไม่ให้อายัดเงินก้อนดังกล่าวมาใช้หนี้คืนเจ้าหนี้ ซึ่งไม่ต่างจากการล้มบนฟูก เพราะเท่ากับว่าปล่อยลอยแพนักลงทุน หรือ เจ้าหนี้ ตามการตีความของกฏหมายต้องเผชิญชะตากรรม ขณะที่เจ้าของธุรกิจเซฟตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทำไม Zipmex อินโดนีเซียคืนเงินลูกค้าครบ 100%
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเครือ Zipmex ในประเทศอินโดนีเซีย กลับมีการรับผิดชอบต่อการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ในระดับ "ดี" โดยพบว่ามีการทยอยจ่ายเงินคืนลูกค้าได้ครบ 100% แต่แลกมาด้วยมาตรการทางกฏหมายขั้นเด็ดขาด คือการเพิกถอนใบอนุญาติธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ในกำมือของ ก.ล.ต.ที่อาจทำให้ Zipmex โดนเพิกถอนและดำเนินคดีร้ายแรงในอนาคต
ทุกคนจะได้คืน100 เปอร์เซ็นต์
ที่ผ่านมาผู้เสียหายได้ติดตามทวงสินทรัพย์คืนจากผู้บริหาร หรือซีอีโอ Zipmex มาโดยตลอด ซึ่งคำตอบที่ได้รับ คือ "ทุกคนจะได้คืน100 เปอร์เซ็นต์" เพราะขณะนี้ได้ยื่นแผนขอฟื้นฟูกิจ การไปที่ศาลสิงคโปร์แล้ว ซึ่งทุกคนก็รอคอยอย่างมีความหวังแม้ว่าจะนาน
แต่ผ่านไปปีครึ่งก็ไม่ได้เงินอย่างที่แจ้งไว้กับลูกค้าแต่อย่างใด เนื่องจากเขาหาผู้ลงทุนไม่ได้ เพราะการขอฟื้นฟูมีระยะเวลาของแผน แต่พอแผนไม่สำเร็จภายในที่ศาลกำหนดก็หมดอายุต้องทำแผนขึ้นมาใหม่
แต่ไม่นาน ฝันของนักลงทุนต้องดับสลาย หลังจากที่ วันที่ 20-21 ส.ค.65 บริษัทฯได้ยื่นแผนฟื้นฟูฉบับที่ 2 เพื่อขอยืนฟื้นฟูกิจการ Zipmex Asia Pte Ltd กับ Zipmex Pte Ltd ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในสิงคโปร์ทั้ง 2 แห่ง และ Zipmex Australia Pty Ltd (จดทะเบียนในออสเตรเลีย)
แต่ Zipmex Thailand และ PT Zipmex Exchange Indonesia (จดทะเบียนในอินโดนีเซีย) กลับไม่ได้อยู่ในแผนฟื้นฟูฉบับที่ 2 โดยอ้างว่า ไม่สามารถทำตามแผนเดิมได้สมบูรณ์ เพราะว่าผู้ลงทุนเก่ายกเลิก จึงทำให้ต้องยกเลิกแผนเก่าทั้งหมด
ประกาศหยุดเทรดชั่วคราว
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มบริษัท Zipmex ได้มีคำสั่งประกาศ ระงับซื้อขายและฝากสินทรัพย์ชั่วคราว โดยมีผลทันทีเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
ตามที่ก.ล.ต.สั่งการตามข้อ 16/ 1(3) ของประกาศดังกล่าว ให้ Zipmex ดำเนินการเพื่อให้สามารถดำรงสถานะเงินกองทุนได้ตามที่กำหนด และคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยขอให้ยื่นแผนการแก้ไขปัญหาการดำรงเงินกองทุนต่อ ก.ล.ต. ดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาการดำรงเงินกองทุนที่ได้ยื่นต่อ ก.ล.ต. ตามข้อ (1) เพื่อให้สามารถกลับมาดำรงเงินกองทุนภายในระยะเวลาแผนดังกล่าว
และเน้นย้ำว่า ต้องดำเนินการให้ลูกค้าสามารถถอน หรือโอนย้ายทรัพย์สินเงินบาท และสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับข้อติดขัดในการดำเนินการดังกล่าว และให้ Zipmex เตรียมความพร้อมของระบบงาน และบุคลากรในจำนวนที่เพียงพอต่อการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าและดำเนินการตามความประสงค์ของลูกค้าตามข้อ (3)
ในการนี้ลูกค้าทุกท่านยังสามารถถอนเงินบาทและสิน ทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ใน Trade Wallet ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ Zipmex และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือได้ตามปกติจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 อย่างไรก็ตามกรณีของสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทซื้อขายได้อย่างเดียว (Trade Only) ให้ติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ Customer Support เพื่อดำเนินการถอนเท่านั้น
และหลังจากวันที่ 31 มกราคม 2567 เมื่อบริษัท Zipmex ระงับการถอนสินทรัพย์ผ่านทางหน้าเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ลูกค้าต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ Customer Support เท่านั้น โดยสินทรัพย์ดิจิทัลอาจต้องใช้ระยะเวลา 7-14 วัน ขั้นตอนการถอนจึงจะแล้วเสร็จ
ต้นตอปัญหากระดานล้ม
ย้อนไปที่จุดเริ่มต้นมาจากวิกฤตการถดถอยของตลาดคริปโทในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาส่งผลให้ Zipmex Asia ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนต้องระงับการถอนเงิน และปิดบัญชีฝากสินทรัพย์ดิจิทัล Z Wallet ซึ่งยังมีลูกค้าจำนวนมากมีสินทรัพย์ตกค้างในนั้น โดยสินทรัพย์ดิจิทัลใน Z Wallet นั้น Zipmex ได้นำไปฝากถอนดอกเบี้ยที่แพลตฟอร์มกู้ยืมอื่น ๆ แต่แพลตฟอร์มเหล่านั้นล้มละลาย
ตามรายงานจาก Zipmex Thailand ระบุว่า ได้ทำการฝากไว้ที่คู่ค้าคือ Babel Finance และ Celsius มูลค่ากว่า 2,000ล้านบาท ทั้งสองแพลตฟอร์มประกาศล้มละลายไปแล้ว ลูกค้าที่ฝากเงินใน Z Wallet ยังไม่ได้คืน
จากนั้น Zipmex เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ในกระบวนการนี้ ทำให้สถานะของลูกค้าที่ฝากเงินใน Zipmex และยังถอนเงินไม่ได้กลายเป็น “เจ้าหนี้”
ทั้งนี้ “Zipmex” เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่เดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐถึง 4 ประเทศ คือ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ซึ่ง Zipmex Thailand ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโทที่มีส่วนแบ่งในตลาดมากเป็นอันดับ 2 ซึ่งครองมาร์เก็ทแชร์ราว 30%
อ้างอิง bloomberg