เตือนแล้วนะ! JPMorgan ชี้ระวังปี 67 'กองทุนบิตคอยน์'อาจทำให้เกิดแรงเทขาย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่าธนาคาร JPMorgan Chase ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐได้ออกรายงานล่าสุด พร้อมเตือนว่าให้ระมัดระวังตลาดคริปโทในปี 2024 ที่กำลังจะถึงนี้ และการอนุมัติออกกองทุน Bitcoin Spot ETF จาก ก.ล.ต.สหรัฐฯ ในปีหน้าอาจไม่ได้ทำให้ราคาเหรียญปรับตัวขึ้นไปอย่างที่นักลงทุนต่างคาดหวังกัน และอาจเป็น "sell-the-news"  หรือมีแรงขายเกิดขึ้นหลังข่าวจริงออก

 Bitcoin ซึ่งเป็นเรือธงของสกุลเงินดิจิทัล ตอนนี้ตลาดมีความตื่นเต้นเกี่ยวกับการอนุมัติที่เป็นไปได้ของกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin (ESEC ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับ Invesco Galaxy เปลี่ยน Ethereum ETF เป็น 2024TF) ในเดือนมกราคม

Nikolaos Panigirzoglou นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างกระแสตลาดในปัจจุบัน และระดับการเข้าซื้อในช่วงตลาดกระทิงปี 2564 ทำให้นักวิเคราะประเมินว่านำไปสู่แนวโน้มที่ "ระมัดระวัง" สำหรับตลาด คริปโท ในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบ "การซื้อตามข่าวลือ/ขายตามข้อเท็จจริง" ที่เป็นไปได้หลังการอนุมัติของ ETF

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan อธิบายต่อว่า ในปีหน้า (2024) หาก Bitcoin Spot ETF ได้รับการอนุมัติออกมาหลายกอง เหรียญ Bitcoin มีโอกาสสูงมากที่จะถูก ‘Sell on Fact’ หรือขายทำกำไรเมื่อเหตุการณ์จริงเกิดขึ้น หลังจากที่ ‘Buy on rumor’ หรือ ซื้อเก็งกำไร มาล่วงหน้า

จับตารีเทิร์นคริปโทเบอร์ 2 

แต่ในรายงานดังกล่าวกลับมองว่าในปี 2567 เหรียญคริปโทเบอร์ 2 ของโลกอย่าง อีเธอเรียม Ethereum มีโอกาสที่จะทำผลตอบแทนแซงหน้าเหรียญบิตคอยน์ และเหรียญคริปโทอื่นๆ ได้ เนื่องจากว่าบล็อกเชน Ethereum กำลังจะอัปเกรด ‘EIP-4844’ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘Proto-danksharding’

รวมทั้งรายงานของ JPMorgan ชี้ว่า ในปี 2566 ราคาของบิตคอยน์ ได้รับข่าวเชิงบวกจากการอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETF พร้อมกับเหตุการณ์การ Halving ที่กำลังจะเกิดในปี 2567 ไปเยอะพอสมควร จนทำให้ระดับราคาเข้าสู่โซน ‘Overbought’ (แรงซื้อเยอะจนเกินไป) เช่นเดียวกับในช่วงปี 2564 

นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2565 บรรดา Venture Capital (กองทุนร่วมทุน) เริ่มมีการกลับมาลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโทมากขึ้นแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังดูเป็นการไหลกลับมาชั่วคราวอยู่

อ้างอิง cnbc