กองทุนบิตคอยน์ ดึง’ค่าฟี’ต่ำเกณฑ์ กดดันรายได้หลักเอ็กซเชนจ์คริปโท เลือดอาบ!
กูรู ชี้ ‘กองทุนบิตคอยน์’ ดึงเกณฑ์”ค่าฟี” หรือ “ค่าธรรมเนียม” ต่ำลง ทำให้นักลงทุนรายย่อยได้ประโยชน์ แต่เป็นการกดดันรายได้หลักเอ็กซเชนจ์คริปโท ‘เลือดอาบ’ ท่ามกลางสมรภูมิค่าฟี ซึ่งถือว่าเอ็กซ์เชนจ์คริปโทในปัจจุบันยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่สูง
Spot Bitcoin ETF อาจส่งผลกระทบที่ไม่คาดคิดต่อตลาดซื้อขายคริปโท(Exchange) อย่างเช่น Coinbase เนื่องจากเกณฑ์ของค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมลดลง
ขณะที่ชุมชนคริปโทต่างรอคอยการอนุมัติกองทุน spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ที่อาจมีความชัดเจนในเร็วๆนี้แต่นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่าสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อตลาดซื้อขายคริปโท
นักวิเคราะห์ในวงการคริปโทหลายคนคาดการณ์ว่า spot BTC ETF จะเริ่มซื้อขายได้ในช่วงต้นปี 2567 เมื่อประกอบกับเหตุการณ์ halving ของ Bitcoin ในเดือนเมษายน ทำให้ อดัม แบล็ก (Adam Back )ซีอีโอBlockstream เชื่อว่า สามารถผลักดันให้ราคาบิตคอยน์ขึ้นไปสู่ 100,000 ดอลลาร์ ได้
แต่การคาดการณ์ใช่ว่าจะมีผลดีอย่างเดียว แต่อาจกระทบต่อตลาดซื้อขายคริปโทแบบรวมศูนย์ หรือเอ็กซ์เชนจ์ต่างๆ ตามที่นักวิเคราะห์หลายๆคนคาดการณ์
โดย Nate Geraci ประธาน ETF Store และ Eric Balchunas นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ETF คาดการณ์ว่าเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว มีความเป็นไปได้ spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ จะทำให้ตลาดซื้อขายคริปโท“นองเลือด (bloodbath)”
Geraci มองว่า ผู้ซื้อและผู้ขาย spot Bitcoin ETF รายย่อยจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินการซื้อขายและค่าคอมมิชชั่นของสถาบัน ในทางกลับกันผู้ให้บริการรายย่อยของตลาดซื้อขายคริปโทจะต้องแข่งขัน “การดำเนินการซื้อขายและค่าคอมมิชชั่น” ทำให้ต้องปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ spot Bitcoin ETF
Eric Balchunas นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ETF กล่าวว่า ETF จะมีต้นทุนเพียง 0.01% ในการซื้อขาย ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมเฉลี่ยสำหรับการซื้อขาย ETF ในทางตรงกันข้าม ต้นทุนซื้อขายในตลาดฯ อย่าง Coinbase สูงถึง 0.6% ขึ้นอยู่กับสกุลคริปโท ขนาดธุรกรรม และคู่ซื้อขาย เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว spot Bitcoin ETF จะสร้างการแข่งขันด้านราคามากขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโท
ในที่สุดมันจะกลายเป็น ‘Crypto Super Bowl’ หาก ETF เปิดตัว เนื่องจาก ETF จะทำให้ราคาอ่อนไหวและรุนแรง ซึ่งเหล่าเอ็กซ์เชนจ์ต่างๆ นิยมสร้างรายได้มหาศาลจากค่าธรรมเนียมที่สูงมาก
เเข่งเดือดสมรภูมิค่า "ค่าฟี"
ที่ผ่านมา Coinbase มีรายได้ส่วนใหญ่จากค่าธรรมเนียมทำธุรกรรม ในปี 2565 มีค่าธรรมเนียมทำธุรกรรม2.4 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย คิดเป็น 77% ของรายรับสุทธิรวม จากทั้งหมด3.1 พันล้านดอลลาร์
ค่าฟี หรือค่าธรรมเนียมการทำธุรกิจถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเรียกลูกค้าของเหล่ากระดานเทรด สะท้อนจากไบแนนซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานที่มีผู้ใช้มากที่สุด แต่กลับมีวอลลุ่มการเทรดที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่มีการยกเลิกโปรโมชั่น “ฟรี” ค่าธรรมเนียม
อย่างไรก็ตาม Binance ถือเป็นกระดานคริปโทที่มีค่าฟีต่ำที่สุดในระดับที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียมการเทรด 0.015% - 0.03% และค่าธรรมเนียมการถอน แตกต่างกันไปในแต่ละเหรียญ
ส่วนในประเทศไทยเอง เจ้าตลาดอย่าง Bitkub โดยปัจจุบันเป็นเว็บเทรดที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของไทย มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเทรด 0.25% และค่าธรรมเนียมการถอน 20 บาท ต่อครั้ง
เช่นเดียวกับกระดานอื่นอย่าง bitaza ที่ มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเทรด 0.25% และค่าธรรมเนียมการถอน 20 บาท ต่อครั้ง
อ้างอิง : cointelegraph