'ท๊อป จิรายุส' เผย 'บิทคับ' เล็ง IPO ปี 68 ตั้งเป้าจ้างงานเพิ่ม 1,000 ตำแหน่ง
“ท๊อป จิรายุส” เผยสื่อนอก “บิทคับ” อยู่ระหว่างว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมทำ IPO ในตลาดหุ้นไทย (SET) ภายในปี 2568 พร้อมตั้งเป้าจ้างงานเพิ่ม 1,000 ตำแหน่ง
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เจ้าของแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีเจ้าตลาดของไทย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันนี้ (1 เม.ย.) ว่า บริษัทฯ มีแผนขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในปี 2568 และขณะนี้อยู่ระหว่างว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับดูแลเรื่องการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย
นายจิรายุสเสริมว่า แผนดังกล่าวเป็นความพยายามในการเพิ่มชื่อเสียงและระดมเงินทุนให้กับบริษัทบิทคับ
รายงานของบลูมเบิร์กระบุว่า ก่อนหน้านี้ บิทคับเคยส่งสัญญาณเกี่ยวกับแผนทำ IPO ในไทยในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อปี 2566 แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลาเป้าหมายเอาไว้
ปัจจุบัน การแข่งขันของเหล่ากระดานคริปโทฯ ในไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ โดยทั้ง “ไบแนนซ์” กระดานคริปโทฯ ระดับโลก และ “ธนาคารกสิกรไทย” หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ต่างเคลื่อนไหวชิงส่วนแบ่งตลาดจากบิทคับในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า จำนวนบัญชีซื้อขายคริปโทฯ ที่ใช้งานอยู่ในไทย เพิ่มขึ้นเป็น 238,000 บัญชีในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2565
เมื่อเดือน ก.ค.2566 บิทคับขายหุ้น 9.5% ในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจกระดานซื้อขายคริปโทฯ ของตน ให้กับบริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ด้วยมูลค่า 600 ล้านบาท ขณะนั้น นายจิรายุสคาดว่า มูลค่าของบิทคับ ออนไลน์ ซึ่งถูกประเมินไว้ที่ราว 6,000 ล้านบาท จะยังสูงขึ้นอีก เนื่องจากปริมาณการซื้อขายบนแพลตฟอร์มใกล้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วง “บูลรัน” (ตลาดกระทิง) ของคริปโทฯ รอบที่แล้วในปี 2564
ทั้งนี้ บิทคับ ออนไลน์ ครองสัดส่วนราว 80% ของรายได้รวมของบิทคับ แคปปิตอล
ในขณะที่ราคาบิตคอยน์ (BTC) วิ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ จนทำให้บรรดานักลงทุนกลับมามองบวกต่อตลาดคริปโทฯ อีกครั้ง ขณะนี้ บิทคับกำลังอยู่ในช่วงขยายธุรกิจหลังจากลดจำนวนพนักงานลง 6% ในปี 2565 และ 2566 โดยนายจิรายุสตั้งเป้าว่า จะเพิ่มขนาดของพนักงานบิทคับเป็น 3,000 คนภายในปี 2568 จาก 2,000 คนในปัจจุบัน
สำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณปีล่าสุด ปี 2565 แม้จะเป็นปี “ขาลง” ของตลาดคริปโทฯ แต่บริษัทบิทคับรายงานว่ามีรายได้รวม 1,744 ล้านบาท ถึงแม้จะลดลง 24.42% จากปีก่อนหน้า แต่ยังมีกำไรมากถึง 1,322 ล้านบาท
อ้างอิง: Bloomberg