Bitkub เผย 3 ปัจจัยฟื้นราคา ‘บิตคอยน์’ จับตา ‘สินทรัพย์ดิจิทัลไทย’ ครึ่งปีหลัง

Bitkub เผย 3 ปัจจัยฟื้นราคา ‘บิตคอยน์’  จับตา ‘สินทรัพย์ดิจิทัลไทย’ ครึ่งปีหลัง

Bitkub เผย 3 ปัจจัยฟื้นราคา ‘บิตคอยน์’ อีกครั้งหลัง Bitcoin Halving 6 เดือน จับตา ‘สินทรัพย์ดิจิทัลไทย’ ครึ่งปีหลังมี 'อินเวสเมนท์โมเคน' และโทเคนไนซ์คาร์บอนเครดิต สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

พงศกร สุตันตยาวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub Exchange) กล่าวในงาน Investment Forum 2024 เจาะขุมทรัพย์ลงทุนยุคโลกเดือด ในหัวข้อ Resilient Investment ถึง 3 ปัจจัยฟื้นราคาบิตคอยน์ในครึ่งปีหลังแม้ว่าจะผ่านปรากฏการณ์ “บิตคอยน์ ฮาฟวิ่ง” Bitcoin Having มาแล้ว

ปัจจัยแรก ตามข้อมูล และสถิติของปรากฏการณ์บิตคอยน์ฮาฟวิ่งในอดีตสะท้อนให้เห็นว่าราคาบิตคอยน์จะพักตัวประมาณ 6 เดือน ดังนั้นนับจากนี้ 6 เดือน สู่ช่วงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนจะเกิดวัฏจักร “บูลรัน” ซึ่งจะกินเวลานานถึง 350 - 400 วัน ซึ่งประจวบเหมาะกับอีก 2 ปัจจัยซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ส่วนอีก 2 แฟกเตอร์สำคัญคือ การตัดสินใจลดดอกเบี้ย 1 ครั้งของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในช่วงปลายปี และการเลือกตั้งสหรัฐ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ผลักดันให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดทุน และระบบเศรษฐกิจ รวมไปถึงการจุดกระแส “ตลาดบูลรัน”

ปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์ บิตคอยน์ฮาฟวิ่งที่ผ่านมาในเดือนเมษายน จากสถิติที่ผ่านมา การเกิดขึ้นของบิตคอยน์ฮาฟวิ่ง มักส่งผลต่อราคาบิตคอยน์ในทิศทางบวก

พงศกร กล่าวถึงการเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจำเป็นต้องเข้าใจวัฏจักรของตลาด (Nature Cycle) ข้อมูลในอดีตสามารถนำมาเป็นแนวทางในการลงทุนได้ ซึ่งเมื่อพูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งสำคัญคือ ต้องแยกแยะบิตคอยน์ออกจากอัลคอยน์อื่นๆ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ นักลงทุนควรศึกษา และทำความเข้าใจระบบการทำงานของบิตคอยน์ รวมถึงกลไกการซื้อขายบนแพลตฟอร์มต่างๆ (Exchange)หรือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ระบบนิเวศที่เอื้ออำนวย และกฎระเบียบที่ชัดเจน ล้วนส่งผลให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยมีความแข็งแกร่ง

 

 

 

 

นอกจากนี้สิ่งที่น่าจับตามองในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยในปี 2567 คือ "อินเวสเมนท์โทเคน" การระดมทุนผ่านโทเคน หรือ Investment Token ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปีนี้  สิ่งนี้เปรียบเสมือน แอสเสทแบค หรือ กองรีท ในรูปแบบดิจิทัล invests ในสินทรัพย์จริง invests

เหล่านี้ จะนำเสนอผ่าน Initial Offering (IO) บนแพลตฟอร์มระดมทุนแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง

และกำลังจะมีการ “โทเคนไนซ์คาร์บอนเครดิต” ตามเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 ซึ่งจะสร้างความต้องการให้กลุ่มธุรกิจซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ดังนั้นจึงต้องจับตาตลาดรองที่สามารถรองรับการโทเคนไนซ์คาร์บอนเครดิต เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจสีเขียว

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์