ธอส.ยันตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ถึงสิ้นปีนี้
ธอส.ยันไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้แน่นอนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อดูแลลูกค้า คาดกระทบรายได้ 1.9 พันล้าน ส่วนปีหน้าทยอยขึ้นตามตลาดภายใน 6 เดือน หากปรับขึ้นจะอยู่ที่ 0.25% คาดกระทบรายได้ 5 พันล้าน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ยืนยันจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับลูกค้าจนถึงปลายปี 2565 นี้ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม เนื่องจาก ธนาคารต้องการแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล
“ผลการตรึงดอกเบี้ยเงินกู้จนถึงสิ้นปีนี้ จะทำให้รายได้ธนาคารหายไปกว่า 1.9 พันล้านบาท”
ส่วนปี 2566 ธนาคารจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับตลาดภายใน 6 เดือน คาดกระทบรายได้ราว 5 พันล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารจะทยอยปรับตารางผ่อนในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2566
“หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ลูกค้าของธนาคารจะได้รับผลกระทบหลักพันบัญชี แต่หากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.50% จะมีลูกค้าได้รับผลกระทบหลักหมื่นบัญชี”
อย่างไรก็ดี แต่ธนาคารยังบริหารจัดการได้ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เป็นลูกค้าเงินกู้ต่ำกว่า 2 ล้านบาท การปรับอัตราชำระหนี้ก็จะไม่ได้เพิ่มสูงมาก
“เมื่อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจะมี 3 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าใหม่ที่จะกู้ได้วงเงินน้อยลง เนื่องจากต้องเสียดอกเบี้ยมากขึ้น 2. ลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอล อยู่แล้ว และอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งอาจจะมีภาระการผ่อนมากขึ้น และ 3. กลุ่มลูกหนี้ปัจจุบันที่อาจจะมีภาระการผ่อนชำระหนี้มากขึ้นเพราะเงินงวดไม่พอตัดต้นกับดอกเบี้ย”
ทั้งนี้ขอให้ลูกค้าเข้าใจ และไปดูสัญญาเงินกู้ของตัวเองว่าเป็นอย่างไร หากเป็นสัญญาเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยคงที่ เช่น บ้านล้านหลัง ก็จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะอัตราดอกเบี้ยยังคงที่นานถึง 4 ปี แต่หากเป็นเงินกู้ผูกกับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ในส่วนของลูกหนี้ที่มีวงเงินสูง‘
อย่างไรก็ดี ธอส. มีนโยบายที่จะดูแลลูกหนี้ให้มากที่สุดเพราะมีการคำนวณเงินงวดที่มีความยืดหยุ่นรองรับไว้แล้วมากกว่าธนาคารทั่วไป