KTX คาดหุ้นไทยไตรมาสแรกฟื้น แนะลุยกลุ่มบริโภค ท่องเที่ยว เช่าซื้อ
KTX คาดตลาดหุ้นไทยไตรมาสแรกปีนี้ สงสัญญาการฟื้นตัว แนะนำลงทุนกลุ่มที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศ โฟกัสหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มบริโภคภายในประเทศ และ กลุ่มเช่าซื้อ
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) คาดตลาดหุ้นไทยใน 1Q23 แนวโน้มฟื้นตัวตามตลาดหุ้นโลก โดยประเมินเป้าหมาย SET Index ที่ 1,650 จุด จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,607–1,696 จุด ด้วยสมมติฐาน Earnings Yield Gap 3.3%, Risk free rate 3.6% และ EPS 113.7 บาท/หุ้น เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจภายในประเทศ อาทิ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มบริโภคภายในประเทศ และ กลุ่มเช่าซื้อ
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นโลก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก แนวโน้มเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีนี้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของ Dot Plot ของเฟดที่ 5.1% และการประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดการณ์ของจีน ซึ่งช่วยทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสปรับสูงขึ้นจากคาดการณ์เดิม 21 ล้านคน อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 25-28 ล้านคน
ประเมินเป้าหมาย SET Index ช่วง 1Q23 อยู่ที่ 1,650 จุด ด้วยสมมติฐาน Earnings Yield Gap 3.3%, Risk free rate 3.6% และ EPS 113.7 บาท/หุ้น
สำหรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นไทยที่จะทำให้ปรับตัวแย่กว่าตลาดหุ้นโลกมาจาก 1) ตลาดหุ้นไทยมีส่วนผสมของหุ้นคุณค่า ที่มีการเติบโตในระดับคงที่ (Value Stocks) มากกว่าหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ทำให้ได้รับผลบวกจำกัด หลังจากทิศทางดอกเบี้ยเปลี่ยนจากขาขึ้น เป็น ทิศทางขาลง
2) ความน่าสนใจในแง่อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ในปี 2023E ของบริษัทจดทะเบียน ปรับลดลง เนื่องจากฐานกำไรที่สูงขึ้นในปี 2022
KTX แนะนำกลยุทธ์การลงทุน1Q23 เน้นลงทุนกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจภายในประเทศ ประกอบด้วย 1) กลุ่มเปิดประเทศ (Reopening) รับข่าวจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดการณ์ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสสูงกว่าระดับเป้าหมาย หุ้นแนะนำ AAV, MINT, ERW
2) กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคภายในประเทศ รับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีโอกาสดีกว่าคาดการณ์ โดยมีแรงหนุนจากภาคบริการ หุ้นแนะนำ M และ SAPPE
3) กลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบเชิงลบจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้นแนะนำ SAWAD, THANI, ASK