เปิดพอร์ต 5 ‘กองทุนหุ้นจีน’ ผลตอบแทนสูงสุด ลงทุนหุ้นในจีนยุคใหม่อะไรบ้าง
“ตลาดหุ้นจีน” เนื้อหอม ชาว Wall Street หลงเสน่ห์ หลังเปิดประเทศ “เศรษฐกิจฟื้นตัว- เงินหยวนมีเสถียรภาพ” ดูดเงินต่างชาติ“มอร์นิ่งสตาร์” เผยกองทุน SSFE ผลตอบแทนนำโด่ง 8.69% ฉายโอกาสชัด อนาคตการลงทุนในจีนยุคใหม่ Ping An Insurance - China Merchants Bank
ถึงแม้ว่าปีนี้ โลกยังต้องเผชิญกับภาวะความผันผวนต่อเนื่องอีกปี แต่ดูทรงแล้ว “ตลาดหุ้นเอเชีย” ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะ “ตลาดหุ้นจีน” ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ซึ่งล่าสุดชาว Wall Street หลงเสน่ห์ตลาดหุ้นจีน หลังจากที่จีนทำการเปิดประเทศ สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายมากขึ้น
สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Morgan Stanley และ Goldman Sachs ต่างก็มีความเห็นสอดคล้องกันว่า “ตลาดหุ้นจีน” มีแนวโน้มเป็นบวก รวมไปถึงค่าเงินหยวนที่เริ่มมีเสถียรภาพ
ขณะที่ข้อมูลIMF ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจจีน ในปี2566 เพิ่มเป็นเติบโต 5.2% จาก 4.4%ที่มองไว้ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 และคาดว่าในปี 2567 จะขยายตัว 4.5% โดยมองว่า การเปิดประเทศจีนจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจโลกให้ขยายตัว
และในฝั่งของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าค่าเงินหยวนจะแข็งค่าไปแตะที่ระดับ 6.5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและเม็ดเงินต่างประเทศที่ไหลเข้า
ปีนี้ดูเหมือนว่าจีนจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศมหาศาล กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญการกระตุ้นจากรัฐบาลเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากสิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่ Morgan Stanley และ Goldman Sachs คาดการณ์ นักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในจีนจะได้กำไรจากทั้งตลาดหุ้นและค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น
5 ‘กองทุนหุ้นจีน’ ผลตอบแทนสูงสุด
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก “มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช(ประเทศไทย)”รายงานกลุ่ม "กองทุนหุ้นจีน” ที่มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ 23 ก.พ.) สูงสุด 5 อันดับแรกของกลุ่ม ลองดูกันแต่ละกองทุนซื้อหุ้นเด่น 5อันดับแรกอะไรบ้าง
อันดับ 1 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ แอคทีฟ (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์): SCBASHARE(SSFE)
มีผลตอบแทนสูงสุด 8.69% มีสินทรัพย์ลงทุน5อันดับแรก ได้แก่ 1. Ping An Insurance (Group) 4.01% , China Merchants Bank Co Ltd Class 3.38% , LONGi Green Energy Technology 3.04%,Hongfa Technolog 2.77% และ Kweichow Mouta 2.73%
อันดับ 2 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไชน่า เอโวลูชั่น : MCHEVO
มีผลตอบแทน 7.24% มีสินทรัพย์ลงทุนได้แก่ Kanzhun Ltd ADR 8.62%, China Resources Mixc Lifestyle Service 5.45%, Yangzijiang Shipbuilding (Holdings) 4.62% ,Shandong Weigao Group Medical Polymer 3.80%และ Tsingtao Brewery Co Ltd Class H 3.47%
อันดับ 3.กองทุนเปิดฟิลลิป ไชน่า กรีน เอ็นเนอร์จี แอนด์ เอ็นไวรอนเมนท์ : P-CGREEN
มีผลตอบแทน 6.68% มีสินทรัพย์ลงทุน ได้แก่ i Auto Inc Ordinary Shares - Class A 8.87%,Vaneck Vectors Etf 8.50%, Contemporary Amperex Technology 7.30% ,BYD Co Ltd Class H 6.61% และNIO Inc ADR 6.15%
อันดับ 4.กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า : UOBSGC
มีผลตอบแทน 5.97% มีสินทรัพย์ลงทุน ได้แก่ Taiwan Semiconductor Manufacturing 4.77% ,New Oriental Education & Technology Group 3.86%, Shenzhen Everwin Precision Technology 3.19%, Bilibili Inc Class Z 3.03% และ China Hongqiao Group 3.01%
อันดับ 5 กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า เน็กซ์ เจนเนอเรชั่น ฟันด์
ชนิดเพื่อการออม: ABCNEXT-SSF 5.44% , HEFEI MEIYA OPTOELECTRONIC-A 5.17% , CHACHA FOOD CO LTD-A 5.11%, VENUSTECH GROUP INC-A 5.09% , AMOY DIAGNOSTICS CO LTD-A 4.73% และ CENTRE TESTING INTL GROUP-A 4.66%
“ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ ให้มุมมองต่อ “ตลาดหุ้นจีน” ว่า ด้าน China Industrial Securities ได้วิเคราะห์เหตุผลที่ทุนนอกไหลเข้าหุ้น A-Share ของจีนมากขึ้นดังนี้
โดยมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจจีนในปี 2566 ที่เชื่อมั่นว่าจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่ง และ ‘จีน’ มีการปรับตัวเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ทำให้วันนี้ จีนก้าวขึ้นแท่นเป็นม้ามืดที่พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างก้าวกระโดด ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
จากการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาเป็นไฮไลท์ในภูมิภาคนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะการผ่อนคลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลต่อการควบคุมของรัฐบาล
พร้อมกันนี้ รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และสนับสนุนธุรกิจแพลตฟอร์มมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม “ตราวุทธิ์” กล่าวว่า หลังจากนี้ ยังต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจีนจะสามารถนำพาประเทศเติบโตตามเป้าหมายได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ จีนถือเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจมากในปี 2566 นี้
“พงค์ธาริน ทรัพยานนท์” Head of Fixed Income and Asset Allocation บลจ.อเบอร์ดีน ประเทศไทย กล่าวว่าปีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังเผชิญกับปัจจัยท้าทาย เงินเฟ้อโดยเฉพาะฝั่งประเทศพัฒนาแล้วจะยังคงฝังแน่นแม้ว่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว เราคาดการณ์ปีนี้ดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสลงทุนในหุ้นเลย เพียงแต่ต้องเลือกเฟ้น (Selective) มากขึ้น เลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพ มีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้ทนทานต่อความผันผวนของตลาดได้เป็นอย่างดี
สำหรับ “ตลาดหุ้นจีน” ปีนี้ดูจะเป็นปีที่ดีหลังจีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งส่งผลดีต่อการบริโภคและภาคการผลิตภายในประเทศให้ฟื้นตัวดีขึ้น เรามองว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นจีนยังมี Valuation อยู่ในระดับที่ถูก และอัตรากำไรต่อหุ้นยังมีแนวโน้มเติบโตสูง จึงถือเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนหุ้นจีน
โดย 2 ทางเลือก "ลงทุนหุ้นจีน" กับอเบอร์ดีน ได้แก่ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ออล ไชน่า ซัสเทนเนเบิล เอคควิตี้ ฟันด์(ABCG) เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่-กลาง ไม่พลาดการลงทุนหุ้นจีนทุกตลาด และ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า เน็กซ์เจนเนอเรชั่น ฟันด์ (ABCNEXT) เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เข้าถึงโอกาสลงทุนในทุกตลาด รวมถึง Shanghai STAR Market