ลุ้น‘3BB’จ่ายค่าเช่าครบ กองทุน JASIF กาง '3 แนวปฏิบัติ'หากผิดสัญญา
บลจ.บัวหลวง เผย “ทริปเปิ้ลทรี” ค้างค่าเช่าแก่“กองทุนแจสอีฟ” เดือนเม.ย. 193.1 ล้าน หลังธุรกิจแข่งขันสูง กระแสเงินสดตึงตัว ด้าน“ผู้จัดการกองทุน” ชี้ หากผิดนัดชำระเกิน15 วันหลังครบกำหนด 2 พ.ค. อาจเพิกถอนสัญญา- ยึดทรัพย์ แจง 3บีบี แจ้งขอลดค่าเช่า แต่ยังไม่ได้หารือเพิ่ม
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)แจ้งว่า บริษัท ทริปเปิ้ลทรี บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ( 3BB) ค้างค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสงแก่JASIF งวดเดือน เม.ย. จำนวน 193.1 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 2 ที่ 3BB ชำระค่าเช่าล่าช้า
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง Deputy Managing Director Real Estate & Infrastructure Investment บลจ. บัวหลวง แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2566 กองทุนได้รับค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจาก3BB จำนวน 750 ล้านบาท จากค่าเช่าประจำเดือน ปี2566 เท่ากับ 943.1 ล้านบาท และยังมียอดค้างชำระบางส่วน จำนวน 193.1 ล้านบาท
นอกจากนี้ 3BB แจ้งกับกองทุนว่า เนื่องจากธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตมีการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่องและต้นทุนการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ 3BB ซึ่งตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าระหว่างกองทุนกับ 3BB นั้น 3BB สามารถชำระล่าช้าได้ไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ครบกำหนดชำระ (Due date) ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 2 พ.ค. 2566 โดยระหว่างนี้ 3BB จะต้องเสียค่าปรับในอัตราร้อยละ 7.50 ต่อปีจนกว่าจะชำระค่าเช่าครบถ้วน
ผู้จัดการกองทุน JASIF รายงานว่า หากวันที่ 2 พ.ค. 3BB จ่ายค่าเช่าได้ไม่ครบตามเงื่อนไขสัญญาเช่า ทางกองทุน JASIF มีแนวทางที่สามารถดำเนินการได้ เช่น จะทำหนังสือบอกกล่าวทวงถามหรือโนติส (NOTICE) โดยหากกรณี 3BB ทำผิดสัญญา โดยจ่ายค่าเช่าล่าช้าเกิน 15 วันตามเงื่อนไขสัญญาเช่า นับจากวันครบกำหนดชำระ 2 พ.ค. ทางกองทุน JASIF อาจดำเนินการขอยกเลิกสัญญา และเรียกร้องค่าเช่าที่คงเหลืออยู่
รวมถึงอาจเข้าไปในพื้นที่เพื่อยึดทรัพย์สินที่เป็นของกองทุน และหากพิจารณาตามเงื่อนไขสัญญาแล้วยังสามารถเรียกร้องเพิ่มเติมได้เช่นกัน แต่การดำเนินการของกองทุน JASIF คงจะดูปัจจัยแวดล้อมต่างๆ และความเหมาะสมในช่วงเวลานั้นประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมให้สามารถเดินไปด้วยกันได้
ทั้งนี้จากการประชุมระหว่าง 3BBกับผู้จัดการกองทุน JASIF ในช่วงปลายเดือนมี.ค.เพื่อรับทราบถึงปัญหาของ 3BB ในการจ่ายค่าเช่าให้กับกองทุนในแต่ละเดือน โดย 3BB ยอมรับมีกระแสเงินสดตึงตัว จากภาวะการแข่งขันในธุรกิจอินเทอร์เน็ตค่อนข้างสูงขึ้น และต้องมีการลงทุนเพิ่มในเรื่องของบริการเสริม เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและหาลูกค้าใหม่ ยอมรับว่า ราคาค่าบริการหรือรายได้ที่ได้มาจะน้อยลงกว่าเมื่อเทียบกับรายได้ลูกค้าเก่า ทำให้กำไรน้อยลง กระทบกระแสเงินที่จะนำมาจ่ายค่าเช่าให้กับกองทุน JASIF ได้ตามสัญญา
โดย 3BB ยอมรับโดยตรงและยังแสดงเจตนารมณ์มีความพยายามหมุนเงินมาจ่ายค่าเช่าให้ทันตามเงื่อนไขสัญญาภายใน15 วันที่ล่าช้าได้ เพราะไม่อยากจะผิดสัญญาค่าเช่า แต่จะจ่ายค่าเช่าไม่ครบทั้งจำนวน ณ วันครบกำหนดชำระ ส่วนกรณีขอลดค่าเช่า เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวจากต้นทุนค่าเช่าที่สูง เพื่อให้ธุรกิจยังยืนอยู่ได้นั้น ทาง 3BB ชี้แจ้งให้กองทุน JASIF รับทราบ แต่ทาง 3BB ยังไม่ได้มีการขอต่อรองอะไรหรือนัดหารือเพิ่มเติมในเรื่องนี้เมื่อไหร่แต่อย่างใด
“ระหว่างนี้ก่อนถึงวันครบกำหนด 2 พ.ค. ทางกองทุน JASIF ได้ติดตามและพูดคุยกับ 3BB ตลอด ยังไม่พบสัญญาณที่แย่ว่าจะต้องมีการขอผ่อนจ่ายค่าเช่า แต่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด”
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จำนวนเงินค้างค่าฯแก่กองทุนJASIF 193.1 ล้านบาทน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ของ 3BB ปีละเกือบ 2 หมื่นล้านบาท แม้ธุรกิจบรอดแบนด์ฯจะมีการแข่งขันสูง กระทบต่อกระแสเงินสดของ 3BB บ้าง แต่ธุรกิจยังไปต่อได้จากความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตที่สูง โดยส่วนตัวเชื่อว่าทาง 3BB นั้นมีความสามารถที่จะขอกู้เงินมาจ่ายได้
สำหรับกรณี 3BB ที่ค้างค่าเช่านั้น มองได้ 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 เมื่อถึงกำหนดที่ต้องจ่ายในวันที่ 2 พ.ค.2566 สามารถนำเงินมาจ่ายได้ ถือว่าจบ แต่จะเกิดลักษณะที่มีการจ่ายล่าช้าในงวดถัดไปเรื่อยๆ จนกว่าทาง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC จะมีการซื้อหุ้น3BB เสร็จ คาดว่าจะเป็นในช่วงไตรมาส3 ปี 2566 โดยกระบวนการขณะนี้รอทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช)อนุมัติ
ส่วนกรณีที่ 2 ไม่สามารถนำเงินมาจ่ายได้ภายในวันที่ 2 พ.ค. ทำให้เกิดการผิดนัดชำระค่าเช่าแก่กองทุนJASIF ขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาปรับโครงสร้างค่าเช่า
นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า จากความไม่แน่นอนเรื่องการปรับโครงสร้างค่าเช่านั้น ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของกองทุน ทำให้ทางฝ่ายวิจัยแนะนำขาย JASIF ซึ่งปัจจุบันราคาก็ต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่ทางฝ่ายวิจัยให้ไว้ที่ 7.20 บาทแล้ว