ยังโตได้อีก! Apple ขยายธุรกิจการเงิน หวังเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ

ยังโตได้อีก! Apple ขยายธุรกิจการเงิน หวังเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ

เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่น่าจับตา เมื่อ Apple ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี กระโดดเข้ามาจับธุรกิจบริการ โดยเฉพาะธุรกิจการเงิน ที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนกำไร สร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้มากในอนาคต

ผ่านระยะเวลามากกว่าหลายปีแล้ว ที่บริษัท Apple ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือประหลาดใจให้กับผู้ใช้งานหรือแฟนคลับตัวยงได้เท่าที่ควร เนื่องจากที่ผ่านมาการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่มักจะมีเพียงแค่การปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ภายในต่างๆ เช่น ความละเอียดของรูปภาพและวิดีโอ และอัปเกรดขนาดความจุของเครื่อง หรือปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Samsung เท่านั้น โดยแต่เดิมรายได้ที่ Apple สร้างจากธุรกิจ Hardware ซึ่งก็คือ การขาย iPhone iPad MacBook และ Accessory ต่างๆ เริ่มได้กำไรลดน้อยลง รวมถึงอัตราการเติบโตก็เริ่มช้าลงด้วย ถึงแม้ว่า iPhone จะยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ อยู่ก็ตาม 

ดังนั้น Apple จึงพุ่งเป้ามาสร้างรายได้จากธุรกิจบริการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AppStore, iCloud, Apple Arcade, Apple TV+, Apple News+, Apple Music และ Apple Card ที่สามารถสร้างกำไรสูงกว่าและสามารถคาดการณ์รายได้ในอนาคตอย่างต่อเนื่องได้ดีกว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Apple ได้รุกเข้าทำตลาด Fintech โดยเปิดตัวบริการ "Apple Buy Now Pay Later" ซึ่งให้บริการการเงินในการซื้อสินค้าและบริการที่สามารถแบ่งจ่ายเงินเป็นงวดๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตและ Apple Card

ยังโตได้อีก! Apple ขยายธุรกิจการเงิน หวังเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ของ Apple

ล่าสุด Apple ได้นำเสนอบริการด้าน financial service อีกหนึ่งอย่างด้วยการจับมือกับทาง Goldman Sachs ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวบริการ Apple Savings Account ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 4.15% ต่อปี สำหรับผู้ที่ถือ Apple Card ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่ผู้ใช้จะได้รับ ถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปและยังไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน และไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝาก อีกทั้งยังคุ้มครองเงินฝากโดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากของสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp.) ในวงเงินสูงสุด $250,000 เหรียญ และด้วยการผนวกกันระหว่าง Apple ที่เป็นแบรนด์สินค้าที่มีคนรู้จักทั่วโลกกับอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจเช่นนี้ น่าจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ที่มีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน หลังจากการล้มละลายของ Silicon Valley Bank ให้หันมาสนใจบริการนี้เป็นจำนวนไม่น้อย

สำหรับการให้บริการเงินฝากของ Apple ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่ต้องการจะเปลี่ยน iPhone จากโทรศัพท์ธรรมดาให้กลายมาเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น 

ซึ่งถือว่า Apple ได้ยืนอยู่เหนือคู่แข่งในบรรดาบริษัทเทคโนโลยี เพราะไม่เพียงแต่ให้บริการแค่สินค้าเทคโนโลยี แต่ยังได้พัฒนาการให้บริการทางการเงินอีกด้วย โดยปัจจุบัน Apple ยังคงเป็นผู้นำตลาดของการจ่ายเงินผ่านดิจิทัลที่เรียกว่า Apple pay และ ณ ตอนนี้ Apple ได้เริ่มเข้าสู่ตลาดการฝากเงินด้วยบริการ Apple Savings Account ทั้งนี้ในระยะแรก Apple จะให้บริการเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น 

ธุรกิจบริการที่ Apple พัฒนา ส่งเสริมกำไรของบริษัทอย่างไรในอนาคต 

หากไปดูอัตรากำไรขั้นต้นของ Apple โดยเปรียบเทียบสัดส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นระหว่างธุรกิจ Hardware กับธุรกิจบริการในช่วงตั้งแต่ปี 2017 - 2022 รวมกับการคาดการณ์กำไรตั้งแต่ปี 2023 - 2025 ของนักวิเคราะห์จาก Bloomberg จะเห็นว่าอัตรากำไรที่ได้จากธุรกิจ Hardware ค่อนข้างคงที่อย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 9 ปี อยู่ระหว่าง 31.50% - 36.30% แต่อัตรากำไรที่ได้จากธุรกิจบริการกลับมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2017 มีสัดส่วนเพียง 55% แต่ในปี 2022 และคาดกาณ์ไปจนถึงปี 2025 เพิ่มขึ้นสูงถึงระดับ 70% 

ยังโตได้อีก! Apple ขยายธุรกิจการเงิน หวังเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ

Source : Bloomberg

การเข้ามาจับธุรกิจบริการ โดยเฉพาะธุรกิจการเงินที่ Apple ได้มีการวิเคราะห์มาอย่างดีนั้น มีนัยสำคัญต่อสัดส่วนกำไรของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก รวมถึงการดึงดูดผู้ใช้งานให้อยู่ใน Ecosystem ของ Apple ยาวนานยิ่งขึ้น และหากมีผู้ใช้บริการ Apple Savings Account เพิ่มมากขึ้น มีกระแสการตอบรับที่ดีในอนาคต อาจจะทำให้ Apple เริ่มเข้ามาอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นในวงการการเงินก็เป็นได้ ดังนั้นสำหรับคนที่คิดว่า Apple นั้นใหญ่เกินกว่าที่จะเติบโตได้แล้ว อาจจะต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดดังกล่าว หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่น่าจับตาของ Apple ในธุรกิจการเงินครั้งนี้

ที่มา : Bloomberg , WSJ , Investing & Investopedia

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ tiscoasset หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds