เจาะเหตุผล ทำไม Apple ต้องเข้าสู่อุตสาหกรรมแว่น VR
การเปิดตัวแว่น VR หรือ Vision Pro ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Apple และเป็นสิ่งที่หลายคนจับตามอง บทความนี้พาไปเจาะเหตุผลว่าทำไม Apple ต้องเข้าสู่อุตสาหกรรม VR และจะประสบความสำเร็จในการรุกตลาดเทคโนโลยีโลกเสมือนได้หรือไม่?
เมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา Apple ประกาศเปิดตัวแว่น "Vision Pro" ซึ่งเป็นแว่น VR Headset ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง visionOS ถือเป็นไฮไลต์ใหญ่ของงาน Worldwide Developers Conference หรือ WWDC 2023 เนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีที่ Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ หลังจากที่เปิดตัว Apple Watch ไปเมื่อปี 2014 โดยราคาหุ้นขึ้นไปแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่มีการเปิดตัว VR Headset ดังกล่าว โดยแว่น Vision Pro สามารถใช้งานได้ทั้งโหมด Virtual Reality (VR) หรือการจำลองภาพเสมือนจริง และ Augmented Reality (AR) หรือการผสานระหว่างโลกความจริงและเสมือนจริงเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมประสบการณ์และเพิ่มความสมจริงของผู้ใช้อย่าง การรับชมภาพยนตร์ การดูรูปถ่าย และคอนเทนต์ รวมถึงมีฟีเจอร์มากมายและแอปพลิเคชันเช่นเดียวกับ iPhone และ iPad ซึ่งคาดว่าจะสามารถวางขายต้นปี 2024 นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนระบบการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่าง iOS17, iPadOS17, macOS 14 "Sonoma" รวมถึงอุปกรณ์ใหม่อื่นๆ อย่าง MacBook Air 15.3 นิ้ว, ชิป M2 Ultra เป็นต้น
ทั้งนี้ การเปิดตัว Apple Vision Pro ถือเป็นหนึ่งก้าวสำคัญของ Apple ในการรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่าง VR ซึ่งมองว่าจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple รวมถึงอาจเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่มีนวัตกรรมเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี VR ด้วยเช่นกัน
เทรนด์ VR มีศักยภาพที่จะเติบโต
ปี 2023 ถือเป็นปีที่สำคัญในการเข้าสู่ตลาด VR ของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ซึ่งขณะนี้ Meta เป็นผู้นำตลาดและมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 80% โดยเพิ่งเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ Meta Quest 3 ไปเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ก่อนหน้าการเปิดตัว Vision Pro ของ Apple เพียงไม่กี่วัน รวมถึงบริษัทอื่นๆ ที่เปิดตัวแว่น VR อย่าง OPPO ในชื่อ MR Glass Developer Edition, Sony ในชื่อ PlayStation VR2 และ HTC ในชื่อ Vive XR Elite โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือ การพัฒนาของเทคโนโลยี อย่างการใช้กล้อง RGM เพื่อแสดงสภาพแวดล้อมด้านนอกเข้าสู่ headset ยิ่งเสริมประสบการณ์ภาพของการใช้งานแว่น VR ให้สมจริงยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความละเอียดในภาพเป็น 8K จากระดับ 4K ซึ่งสามารถรองรับการออกแบบที่ซับซ้อนขึ้นได้
โดยทาง Goldman Sachs ประเมินว่า ยอดการส่งมอบ VR Headset จะเติบโตแตะ 25 ล้านชิ้น ในปี 2027 จากล่าสุด 8.5 ล้านชิ้น ในปี 2022 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) +24% ต่อปี สอดคล้องกับประมาณการรายได้ของอุตสาหกรรม VR hardware ว่าจะมีรายได้แตะ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากล่าสุดปี 2022 อยู่ที่ 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง Apple น่าจะเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตของตลาด AR/VR เช่นกัน โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์ Headset จะสามารถสร้างรายได้ให้ Apple อยู่ระหว่าง 1.3 - 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในช่วงปี 2024 - 2028 แม้ว่าราคาผลิตภัณฑ์ของ Apple จะสูงกว่าราคาเฉลี่ยของบริษัทอื่นมากกว่า 3 เท่า แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า Apple มีศักยภาพพอที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดได้ ทั้งนี้บางส่วนคาดว่า Apple จะดำเนินกลยุทธ์แบ่งผลิตภัณฑ์เป็น 2 โมเดลและจำหน่าย 2 ระดับราคา เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ของ Apple อื่นๆ อย่าง iPhone อีกทั้ง มีการคาดการณ์ว่า Headset ในรุ่นถัดไปอาจจะมีราคาลดลงและอาจเปิดตัวในช่วงปี 2024 - 2025
ประมาณการการเติบโตของจำนวนยอดขาย VR Headsets (หน่วย) และรายได้ของอุตสาหกรรม VR hardware (ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ที่มา : IDC, Data compiled by Goldman Sachs Global Investment Research
จับตาบริษัทที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี VR
จากการเปิดตัว แว่น VR ของ Apple ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างการรับชมภาพยนตร์ที่เสมือนเข้าไปอยู่ในบางส่วนของฉาก การรับชมกีฬาแบบ 3 มิติ หรือมีสถิติ real-time และการเล่นเกมแบบ Interactive ทั้งในรูปแบบ VR และ AR ส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ปรับขึ้น อย่างเช่น Disney ที่ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Apple โดยจะทำให้อุปกรณ์ Apple Vision Pro สามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ของ Disney+ ได้ รวมถึงบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจเกมอย่าง Unity Software ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์สร้างเกมทั้งในรูปแบบ real-time 2D, 3D สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงในรูปแบบ VR ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้นราว +17% หลังการเปิดตัวของ Apple Vision Pro รวมถึง Roblox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ที่เชื่อมต่อผู้เล่นเข้าด้วยกัน และมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับโลก Metaverse ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์เช่นกัน
นอกจากนี้ทาง Financial Times ประเมินว่า การเปิดตัวแว่น VR ของ Apple จะกระตุ้นการเข้าลงทุนใน Start up ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี VR มากขึ้น หลังจากเม็ดเงินลงทุนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2021 หลัง Meta Platform หรือเดิมคือ Facebook ประกาศรีแบรนด์มุ่งเน้นมายังธุรกิจ Metaverse
โดยสรุปแล้ว การเปิดตัว แว่น VR หรือ Vision Pro ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Apple และเป็นสิ่งที่หลายคนจับตามอง แม้ว่าจะเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงก็ตาม แต่ด้วยเทคโนโลยีและคุณภาพผลิตภัณฑ์ จึงทำให้เชื่อว่า Apple จะสามารถประสบความสำเร็จในการรุกตลาดเทคโนโลยีโลกเสมือนได้ โดยจะทำให้ Apple ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปกว่าเดิม และยังคงมีโอกาสสูงมากที่ Apple จะสามารถครองความเป็นมหาอำนาจในโลกเทคโนโลยีต่อไปได้อีกในช่วงเวลาถัดจากนี้
ที่มา : Bloomberg, Goldman Sachs, The Wall Street Journal และ Financial Times, CNBC
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และเว็บไซต์ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds