‘เฟด’ กำลังหยุดขึ้นดอกเบี้ย ไทยจะไปต่ออีกไกลแค่ไหน?
หาก เฟด ตัดสินใจ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.00-5.25% ก็จะเป็นการหยุดวงจรการขึ้นดอกเบี้ยที่กินเวลาร่วม 15 เดือน ขณะที่ไทยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า กนง. อาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน ถ้าเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ออกมาต่ำคาดแบบหักปากกาเซียน
เป็นอีกสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นโลกมีแนวโน้มว่าจะผันผวนสูง เพราะเป็นสัปดาห์แห่งการประชุมของ “ธนาคารกลาง” ยักษ์ใหญ่จาก 3 กลุ่มประเทศ คือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยเราจะทราบผลการประชุมของ เฟด เป็นที่แรก ราวตีหนึ่งของคืนวันนี้ (เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 มิ.ย.) จากนั้นช่วงหัวค่ำหรือราวๆ หนึ่งทุ่มของวันที่ 15 มิ.ย. ก็น่าจะทราบผลการประชุมของ อีซีบี และตามด้วยของ บีโอเจ ที่น่าจะรู้ผลการประชุมในช่วงสายๆ หรือประมาณ 10 โมงเช้าของวันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. 2566
ในฝั่งของ บีโอเจ ตลาดยังเชื่อกันว่า บีโอเจ จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายติดลบที่ 0.1% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 10 ปี ไว้ที่ 0% ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า บีโอเจ อาจส่งสัญญาณในการประชุมรอบนี้ว่า เงินเฟ้ออาจจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ในการประชุมเดือน ก.ค. 2566 แต่ไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า บีโอเจ จะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงิน เพราะ “คาซูโอ อุเอดะ” ผู้ว่าการบีโอเจ ได้ย้ำในช่วงก่อนหน้านี้ถึงความจำเป็นที่ บีโอเจ ยังต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่งและอัตราค่าจ้างจะเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กับเงินเฟ้อ
ส่วนทางด้าน อีซีบี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะเห็นการขยับดอกเบี้ยขึ้นอีกอย่างน้อย 1-2 ครั้ง แม้ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคแล้วก็ตาม โดยผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อีซีบี จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง คือ การประชุมในสัปดาห์นี้ 0.25% และอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า คือ วันที่ 27 ก.ค.2566 เพื่อที่จะดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ขณะที่นักลงทุนแสดงความกังวลว่า สถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนทรุดหนักขึ้นหรือไม่
แต่สิ่งที่ทั่วโลกจับตาใกล้ชิด คือ การประชุมของ เฟด โดยจะรู้ผลในคืนวันนี้ราวๆ ตีหนึ่งหรือตีสองตามเวลาบ้านเรา ซึ่งตลาดเหมือนจะเชื่อว่า เฟด จะตัดสินใจ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.00-5.25% ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนราว 76.9% เชื่อว่า เฟด จะคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์จริง ก็จะเป็นการหยุดวงจรการขึ้นดอกเบี้ยที่กินเวลาร่วม 15 เดือนติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินยังคงคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 50% ที่ เฟด จะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบในระดับ 0.25% ในการประชุมปลายเดือน ก.ค. 2566
กลับมามองที่บ้านเรา ถ้า “เฟด” หยุดขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ มีโอกาสแค่ไหนที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยบ้าง ...คำตอบจาก นักเศรษฐศาสตร์บ้านเรา มองว่า “มี” ถ้าเงินเฟ้อบ้านเราในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นเดือนก่อนที่ กนง. จะประชุมกันในวันที่ 2 ส.ค. ออกมาต่ำคาดแบบหักปากกาเซียนเหมือนกับเดือน พ.ค.
ยิ่งถ้ามองไปข้างหน้า เงินเฟ้อไทยมีความเสี่ยงที่จะกลับมาหดตัวด้วย แถมหนี้ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงที่จะตกชั้นเป็นหนี้เสียยังสูงชัน ขืน กนง. ขึ้นดอกเบี้ยแบบไม่บันยะบันยังแบบเฟด ก็น่าห่วงว่าไทยจะเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจก่อนใครเพื่อนได้เหมือนกัน!