หุ้นรถยนต์ไฟฟ้า จะเป็นความหวังสูงสุดของนักลงทุนหุ้นจีนในปีนี้หรือไม่?
"จีน" ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมาตลอด รัฐบาลจีนจึงมีการสนับสนุนให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้หุ้นเติบโตดีขึ้น แต่ หุ้นรถ EV จะเป็นความหวังสูงสุดอย่างที่นักลงทุนหุ้นจีนเข้าใจจริงหรือไม่? ต้องติดตาม
หนึ่งในการแสดงออกของรัฐบาลจีนที่แสดงให้เห็นว่าสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่คือ จีนมีการดำเนินนโยบายยกเว้นภาษี และการลดหย่อนภาษีรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicles) มาตั้งแต่ในเดือนกันยายนปี 2014 ก่อนจะต่ออายุในปี 2017, 2020 และปี 2022 ล่าสุด รัฐบาลจีนได้ประกาศขยายระยะเวลาการใช้มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (BEV) รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) แก๊สโซฮอล์ และรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายนโยบายปัจจุบันที่ได้รับยกเว้นภาษีจนถึงสิ้นปี 2023
โดยกระทรวงการคลังออกแถลงการณ์ระบุว่า รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ในปี 2024-2025 จะได้รับการยกเว้นภาษีซื้อสูงถึง 30,000 หยวนต่อคัน ขณะที่รถยนต์ NEV ที่ซื้อในปี 2026-2027 จะได้รับการยกเว้นภาษีซื้อไม่เกิน 15,000 หยวนต่อคัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวคิดเป็นวงเงินงบประมาณอยู่ที่ราว 520,000 ล้านหยวน หรือเท่ากับ 72,284 ล้านดอลลาร์ ในปี 2024-2027 รวมทั้งหมด 4 ปี นับเป็นการลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน
การที่รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการยกเว้นภาษีครั้งนี้ จะเป็นการช่วยผลักดันการเติบโตของรถยนต์พลังงานใหม่รุ่นที่มีราคาถูก ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้ผลิตเป็นบริษัทในประเทศอย่าง BYD, Li Auto, NIO, Xpeng มากกว่าบริษัทต่างประเทศที่เป็นรถยนต์ระดับพรีเมียม ซึ่งมีราคาที่สูงกว่าอย่างเช่น Tesla โดยในช่วงก่อนหน้านี้ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ มียอดขายปรับตัวลดลง จากการได้รับผลกระทบหลังจากรัฐบาลจีนยุติโครงการอุดหนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2022
ยอดส่งมอบรถยนต์ในเดือนมิถุนายน 2023
ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของจีนยังคงสามารถเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งถึงแม้ Tesla ได้ประกาศลดราคารถยนต์ และมุ่งเน้นการเติบโตในประเทศจีนอย่างเต็มที่ เห็นได้จากการที่ Elon Musk CEO ของบริษัทได้เดินทางมายังประเทศจีนด้วยตัวเอง และมีแผนที่จะเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่เพิ่มอีกหนึ่งแห่งในประเทศจีน แต่ผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนยังคงเป็นแบรนด์ของจีนเองอย่าง BYD และบริษัทที่ตามหลัง Tesla มา คือแบรนด์หลายแห่งของจีนที่พยายามแข่งขันกันแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างเต็มที่
- Tesla มียอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2 ปี 2023 จำนวน 466,140 คัน สูงกว่าที่ Bloomberg คาดว่าบริษัทฯ จะจัดส่งรถยนต์ได้ 448,350 คัน ในไตรมาสนี้ และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้ามากกว่า 80% โดยล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2566 มียอดส่งมอบ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่ 93,680 คัน เติบโต 20% YoY ยอดส่งมอบรถยนต์ของ Telsa ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย
- BYD มียอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2 ปี 2023 จำนวน 700,244 คัน เพิ่มสูงถึง 98% YoY ถือเป็นไตรมาสที่มียอดส่งมอบดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2566 มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 352,613 คัน เติบโต 46.79% MoM เมื่อเทียบกับ 240,220 คัน ในเดือนก่อนหน้า
- Li Auto มียอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2 ปี 2023 จำนวน 86,533 คัน เติบโตมากถึง 150% YoY โดยล่าสุดเดือนมิถุนายน 2566 มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 32,575 คัน เติบโต 15.20% MoM เมื่อเทียบกับ 28,277 คัน ในเดือนก่อนหน้า
- NIO มียอดส่งมอบรถยนต์ไตรมาส 2 ปี 2023 จำนวน 23,520 คัน เติบโต 12% YoY โดยล่าสุดเดือนมิถุนายน 2566 มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 10,707 คัน เติบโต 73.96% MoM เมื่อเทียบกับ 6,155 คัน ในเดือนก่อนหน้า
- Xpeng มียอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2 ปี 2023 จำนวน 23,205 คัน เติบโต 43% YoY โดยล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2566 มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 8,620 คัน เติบโต 14.84% MoM เมื่อเทียบกับ 7,506 คัน ในเดือนก่อนหน้า
บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนประกาศยุติสงครามราคา
ในช่วงที่ผ่านมาสงครามราคาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในจีนไม่ได้ส่งผลดีกับภาพรวมของอุตสาหกรรมมากนัก แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าในจีนน่าจะหาทางยุติสงครามราคาที่เกิดขึ้นได้ โดยในงานประชุม "China Auto Forum" ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ 16 แห่ง ซึ่งรวมค่ายรถยนต์ใหญ่เช่น BYD, Nio, Xpeng, Geely และ Tesla ร่วมกันเซ็นสัญญาที่จะหลีกเลี่ยงการปรับลดราคาที่จะกระทบกับตลาดโดยรวม และตกลงที่จะปฏิบัติตามเกณฑ์ของอุตสาหกรรม ควบคุมการทำการตลาด ทำการแข่งขันที่เป็นธรรม ผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพ และให้บริการที่ดี อย่างไรก็ดีการเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นการขอความร่วมมือแต่ไม่ได้มีผลในด้านกฎหมายแต่อย่างใด
โดยก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีจีนได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ 16 แห่ง ในการร่วมกันทำข้อตกลงดังกล่าว หลังจากที่เริ่มเห็นสัญญาณการแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเริ่มต้นปรับลดราคารถยนต์จาก Tesla และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ยังเปราะบาง ทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้กลยุทธ์แข่งขันลดราคา ข้อมูลเฉลี่ยการปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าระหว่างปลายธันวาคม 2022 ถึงพฤษภาคม 2023 พบว่า Tesla -6.6%, BYD -6.1% และ Xpeng -5.8%
หลังจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการแข่งขันด้านราคาลดลง ขณะที่ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้นเดือน มิถุนายน 2566 ยังปรับเพิ่มขึ้น 30% YoY รวมถึงสัญญาณแข่งขันด้านราคาลดลง โดยมีรถยนต์บางรุ่นได้ปรับเพิ่มราคาขึ้นแล้ว
หุ้นรถยนต์ไฟฟ้าความหวังสูงสุดของนักลงทุนหุ้นจีนในปีนี้ ?
ในด้านของราคาหุ้น ซึ่งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ถูกจัดอยู่ในหมวด Consumer Discretionary ถือเป็นกลุ่มที่สร้างผลตอบแทนดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยหากดูจากผลตอบแทนของกองทุน Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF (CHIQ) พบว่าหุ้น 3 ตัวแรก เป็นตัวหนุนผลตอบแทนกองทุนในช่วงครึ่งปีแรกได้มากที่สุดคือ หุ้นของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัว ประกอบไปด้วย Li Auto (+91.41% หนุนผลตอบแทน 205 Bps) BYD (+36.29% หนุนผลตอบแทน 142 Bps) และ Xpeng (+51.89% หนุนผลตอบแทน 52 Bps) ดังนั้น จากการที่ภาพรวมของเศรษฐกิจจีนยังคงอาจจะฟื้นตัวได้ไม่ดีนักในปีนี้ แต่จากท่าทีของทั้งทางรัฐบาลที่พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีนอย่างเต็มที่ และยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ยังคงออกมาเติบโตได้ดี จึงทำให้หุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของจีน อาจจะถือเป็นกลุ่มที่นักลงทุนสามารถมีความคาดหวังได้สูงสุดกับการลงทุนในหุ้นจีนในปีนี้
ที่มา : Bloomberg ,Yahoo Financial, IEA, China Briefing, Koyfin, Investor’s Business Daily
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมา และพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสม และรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยง และเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0-2633-6000 กด 4, 0-2080-6000 กด 4 และ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds