'เรียลเอ็กซ์' พลิกโฉมอสังหาฯ รุกตลาด 'โทเคนดิจิทัล'

'เรียลเอ็กซ์' พลิกโฉมอสังหาฯ รุกตลาด 'โทเคนดิจิทัล'

ถอดรหัส "เรียลเอ็กซ์" (RealX Investment Token) โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ อีกหนึ่งทางเลือกคลื่นลูกใหม่ตลาดทุนไทย

วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนเเชียล จำกัด กล่าวว่า โทเคนไนเซชัน (Tokenization) จะเป็นเทรนด์การลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงเป็นคลื่นลูกใหม่ในการเปิดตลาดการลงทุน สินทรัพย์ดิจิทัล สู่นักลงทุนมากยิ่งขึ้นในรูปแบบการทำงานที่ง่ายกว่า คล่องตัวกว่า และมีความเชื่อมั่นมากกว่า ตอบโจทย์ผู้ที่มีความสนใจการลงทุนในโลก โทเคนดิจิทัล

"เรียลเอ็กซ์ (RealX Investment Token) ถือเป็นการลงทุนทางเลือกในรูปแบบเหรียญโทเคนดิจิทัล (Digital Token) ซึ่งมีสินทรัพย์อ้างอิงเป็น อสังหาฯ จากการลงทุนในคอนโดมิเนียมพาร์ค ออริจิ้น ซึ่งอยู่ใน 3 ทำเลทอง ใจกลางพร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 361 ยูนิต ซึ่งได้มีการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนครั้งแรก (ICO) ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2566 ในราคา 182 บาท ต่อ 1 โทเคน มีผลตอบรับเป็นไปตามที่บริษัทฯ ตั้งไว้จากทั้งนักลงทุนรายใหญ่ที่มีวอลุ่มมากพอสมควร แสดงถึงความไว้วางใจในเหรียญ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาสะท้อนการขยายฐานกลุ่มนักลงทุนที่กว้างมากขึ้น โดยมีอัตราส่วนนักลงทุนรายย่อย 50 คน ต่อนักลงทุนรายใหญ่ 1 คน ในแง่ของจำนวนนักลงทุน" 

วีรพงษ์ กล่าวต่อว่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนมากขึ้น เรียลเอ็กซ์ จึงต้องฉายภาพความจริงจากสถิติราคาที่ดิน ราคาคอนโดมิเนียม และกลุ่มผู้เช่าคอนโดฯ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ามีกำลังทรัพย์ และคาดการณ์ว่าสามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้ จึงทำให้มีผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยรูปแบบการลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเรียลเอ็กซ์ มีอายุโครงการ 10 ปี นับจากวันที่เริ่มโครงการฯ โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของคอนโดฯ ทั้ง 3 โครงการ ในปีที่ 1-5 อยู่ที่ 4% 4.25% 4.50% 4.75% และ 5% ต่อปีของมูลค่าเสนอขาย โทเคนดิจิทัล ตามลำดับ และในปีที่ 6-10 จะมีการขายคอนโดมิเนียมตามแผนงานที่กำหนดไว้เพื่อจ่ายคืนแก่นักลงทุน ถือเป็นการสร้างโอกาสเข้าถึงการลงทุนใน อสังหาฯ ได้ง่ายยิ่งขึ้น และเป็นทางเลือกกระจายความเสี่ยงแก่นักลงทุน

แน่นอนว่า "ความไว้วางใจ" เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน ทำให้เรียลเอ็กซ์สร้างความน่าเชื่อถือตั้งแต่โครงสร้างของบริษัทฯ ด้วยการเลือกบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลกอย่าง "อีวาย" ที่ปรึกษากฎหมายจาก "เบเคอร์ แม็คเค็นซี่" ไปจนถึงพาร์ทเนอร์ในการเป็นผู้ออกเหรียญที่ได้รับอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และบริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) ภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ที่เข้ามาเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำโทเคนเรียลเอ็กซ์เข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 2 กระดานแกร่งอย่าง TDX และ Bitkub หลังจากสิ้นสุดการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนในเดือนกรกฎาคม 2566

วีรพงษ์ มองว่า การลิสต์เข้าตลาดรองทั้ง 2 แห่ง จะสามารถสร้างเสถียรภาพให้กับราคาเหรียญและเพิ่มสภาพคล่องให้กับเหรียญได้ โดยตลาดจะยิ่งมีความมั่นคงมากขึ้น ถ้าทั้ง 2 ตลาดสามารถเชื่อมโยงกันได้ในอนาคต นำไปสู่การกระจายฐานลูกค้าครั้งใหญ่ที่เสริมสภาพคล่องให้กับเหรียญไปโดยปริยาย รวมทั้งราคาเฉลี่ยของเหรียญจะสามารถปรับขึ้นลง สะท้อนความเป็นจริงได้มากที่สุด

"วิกฤติคือโอกาส ถ้าหากเหรียญ เรียลเอ็กซ์ ในตลาดเคลื่อนไหวที่ราคาต่ำกว่าราคาประเมินของห้องชุดอย่างมีนัยสำคัญ ให้นักลงทุนจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติราคาที่ตกลง เพราะจุดแข็งของเรียลเอ็กซ์ในการเป็นโทเคนที่มีสินทรัพย์อ้างอิง มีมูลค่าจริงและจับต้องได้ ซึ่งราคา อสังหาฯ ในโลกของความเป็นจริงไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไป" 

วีรพงษ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่เรียลเอ็กซ์มองเห็นในอนาคตจากการขยายฐานในกลุ่มลูกค้ารายย่อย จะเป็น "สโนว์บอลเอฟเฟ็กต์" ผลกระทบแบบก้อนหิมะเทียบกับสถานการณ์หนึ่งที่ใหญ่โตขึ้นอย่างทวีคูณและรวดเร็ว ที่จะสามารถขยายความเข้าใจและการรับรู้ของการลงทุนโทเคนของนักลงทุนในตลาดมากขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสะพานสู่บิ๊กเกมในอนาคตสำหรับการสร้างสรรค์เหรียญใหม่ในตลาด

"ถ้าเรียลเอ็กซ์ประสบความสำเร็จ จะถือเป็นการจุดประกายให้ตลาด โทเคนไนเซชัน อีกหลายรูปแบบที่จะสามารถสร้างเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศไทยในอนาคตได้" วีรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

หมายเหตุ : สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจและศึกษาลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้