เป็น 'ฟรีแลนซ์' ต้องเข้าใจวิธีรับมือ 'ภาษีหัก ณ ที่จ่าย'
เป็น "ฟรีแลนซ์" แม้มีอิสระไม่ผูกมัดกับองค์กรใด แต่ก็ต้องมีวินัยและวางแผนการเงิน โดยเฉพาะต้องเข้าใจเรื่องภาษี อย่างเรื่องการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งตอนจ่ายเงิน และ รับเงิน ต้องทำอย่างไร
"ฟรีแลนซ์" คือบุคคลที่ทำงานอย่างอิสระแบบไม่มีสัญญาจ้างกับบริษัทหรือองค์กรใดๆ จะมีความเสรีในการทำงาน และกำหนดเวลาทำงานได้อย่างเป็นอิสระ โดยลักษณะการทำงานฟรีแลนซ์ มีทั้งแบบที่ทำเพียงคนเดียว และทำงานเป็นทีมหลายคน โดยจะแบ่งเป็นธุรกิจในนาม "บุคคลธรรมดา" และ "นิติบุคคล" ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีต่างกัน
และที่สำคัญคือ งานฟรีแลนซ์เป็นงานบริการ จึงต้องมีภาษีหัก ณ ที่จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งโดยหลักการแล้ว หากฟรีแลนซ์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะสามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ โดยจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายเงินค่าบริการ ส่วนฟรีแลนซ์ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะไม่สามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ เมื่อมีการจ่ายเงิน
ในทางตรงกันข้าม กรณีฟรีแลนซ์ได้รับเงินจากผู้ว่าจ้างที่จดทะเบียนนิติบุคคล ทั้งฟรีแลนซ์ในนามบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งมีความแตกต่างกันตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
- ใครมีหน้าที่ต้องเสีย “ภาษีหัก ณ ที่จ่าย”
เนื่องจาก ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นการเสียภาษีที่ผู้จ่ายต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเท่านั้น และต้องหักภาษีไว้ก่อนจ่ายเงิน ให้กับผู้รับเงิน ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จากนั้นนำเงินที่หักส่งให้กรมสรรพากร ภายในวันที่ 7-15 ของทุกเดือน
โดยผู้มีรายได้ที่รับงานฟรีแลนซ์ ทั้งในนามบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย จากลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล และหลังจากที่นิติบุคคลหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว จะต้องยื่น ภ.ง.ด.3 (การหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับนิติบุคคล ทั้งบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล) และ ภ.ง.ด.53 (การหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดา เช่น มีการจ้างลูกจ้างรายวันหัก 3%)
- ลักษณะไหน? ฟรีแลนซ์ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย
สำหรับผู้รับงานลักษณะฟรีแลนซ์ เมื่อได้รับค่าจ้างจากนิติบุคคล ผู้รับเงินจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อส่งกรมสรรพากร โดยกฎหมายกำหนดว่า ผู้ที่เป็นฟรีแลนซ์ หรืออยู่ในประเภทรับเหมาหรือบริการ เช่น การจ้างผลิตสินค้า จ้างทำนามบัตร จ้างรีวิวสินค้า งานเขียน หรือที่ต้องใช้อุปกรณ์ของผู้รับทำ ผู้ว่าจ้างไม่ได้เป็นคนจัดหาให้ จะถือเป็นการจ้างรับเหมาหรือบริการ รายได้ที่ได้รับต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
แต่ถ้าผู้ว่าจ้างมีอุปกรณ์ให้ครบ เช่น จ้างพิมพ์งานมีคอมพิวเตอร์ให้ ค่านายหน้าขายของ ส่วนแบ่งค่าคอม จะจัดอยู่ในประเภทจ้างทำงาน ซึ่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย นี้ จะคำนวณแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หักภาษี ณ ที่จ่ายต่ำสุด 0% แบบเดียวกับค่าจ้างและเงินเดือน
โดยผู้จ้างจะหักไว้ก่อนจ่ายเงินค่าจ้างให้กับผู้รับเงิน พร้อมออกหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ให้กับฟรีแลนซ์ และฟรีแลนซ์ผู้รับเงินต้องนำไปยื่นภาษีบุคคลธรรมดาประจำปีอีก 1 ครั้ง ซึ่งสามารถขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้ หากคำนวณภาษีเงินได้แล้วพบว่ามีภาษีจ่ายไว้เกิน
- รับงานฟรีแลนซ์ทำในนามนิติบุคคล ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
หน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นหน้าที่ของนิติบุคคล ซึ่งในกรณีที่ธุรกิจฟรีแลนซ์ได้ทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะต้องมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายเงินเพื่อใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับกิจการ ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด แตกต่างกันตามประเภทเงินที่จ่าย ดังนี้
- ค่าจ้างและเงินเดือน ฟรีแลนซ์ในนามนิติบุคคลที่มีการจ้างแรงงาน จ่ายค่าจ้างและเงินเดือนให้กับพนักงาน ถ้าเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับยกเว้นหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือต่ำสุด 0%
- จ้างทำงานหรือบริการ เช่น นายหน้าขายของ ได้ส่วนแบ่งค่าคอมฯ จะใช้วิธีคำนวณเหมือนค่าจ้างและเงินเดือน หักภาษี ณ ที่จ่ายต่ำสุด 0%
- จ้างบริการวิชาชีพอิสระ กิจการผู้ว่าจ้างจะต้องทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ซึ่งภาษีในกลุ่มนี้จะประกอบไปด้วย 6 วิชาชีพเท่านั้น คือ 1) โรคศิลปะ 2) ประณีตศิลป์ 3) สถาปนิก 4) วิศวกร 5) นักบัญชี 6) ทนายความ
- จ้างรับเหมาหรือบริการ กิจการผู้ว่าจ้างจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% เช่น การจ้างผลิตสินค้า จ้างทำนามบัตร จ้างรีวิวสินค้า ทำกราฟิก รวมถึงค่าอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ (ต่างจากจ้างทำงาน หรือบริการ ตรงที่จ้างรับเหมา หรือบริการ ผู้ถูกจ้างจะต้องใช้หรือไปหาอุปกรณ์ของตัวเองมาเพื่อดำเนินการตามสิ่งที่ได้รับการว่าจ้าง)
- ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ หากฟรีแลนซ์ในนามนิติบุคคลได้เช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ในการดำเนินกิจการ เช่น อาคาร ออฟฟิศ สำนักงาน ถ้ากิจการเป็นผู้ถือกุญแจ จะนับเป็นค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผู้เช่าจะต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 5%
- ค่าโฆษณา หากต้องการทำโฆษณาเพื่อโปรโมตแบรนด์ บริษัทของตนเอง โดยจ้างผ่านบริษัทรับทำโฆษณา เอเจนซี่ ฟรีแลนซ์ในนามนิติบุคคลจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 2%
- ค่าขนส่ง สำหรับฟรีแลนซ์ที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล และใช้บริการด้านการขนส่งอย่างเดียวไม่พ่วงบริการ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% แต่ถ้าเป็นบริการขนส่งพ่วงบริการจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
สรุป...ทำงานฟรีแลนซ์ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย
การทำงานฟรีแลนซ์เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างรายได้ส่วนตัว แต่ต้องมีการคำนึงถึงกฎหมาย และการถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย บนรายได้ของตนเอง จากลูกค้าหรือผู้จ้างอย่างถูกต้อง รวมถึงเมื่อเข้าสู่การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ก็ต้องทำความเข้าใจในเรื่องของการหักภาษี ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างบริการด้วย
ดังนั้น ผู้มีรายได้จากการรับงานฟรีแลนซ์ทั้งในนามบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกคน ในอัตรา 0%-3% ตามรูปแบบการจ้างงาน ส่วนฟรีแลนซ์สามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ ก็ต่อเมื่อจดบริษัทเป็นนิติบุคคลแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายจากการจ่ายเงินค่าใช้บริการตามประเภทบริการ ในอัตราตั้งแต่ 0% - 5% เพื่อให้การหักภาษีนี้เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระทางภาษีแก่ฟรีแลนซ์ เมื่อถึงเวลาต้องเสียภาษีประจำปีเป็นเงินก้อนโต
----------------------------------
อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting