อินเดีย จ่อคุมส่งออกข้าวอีก หลังเงินเฟ้อพุ่ง หวั่นกดดัน ราคาข้าวโลก

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า อินเดียอยู่ในขั้นตอนพิจารณาเพิ่มข้อจำกัดการขนส่งธัญพืช เนื่องจากชาวอินเดียต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อจากราคาอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้อุปทานทั่วโลกตึงตัวยิ่งขึ้น เพราะอินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก 

โดยแหล่งข่าววงในของบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมพิจารณาจัดเก็บภาษีสำหรับการขนส่งออกข้าวนึ่ง (Parboiled Rice) แต่ปัจจุบันยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ และไม่มีการพิจารณาอย่างแน่ชัดว่าท่าทีนี้จะนำไปสู่การบังคับเป็นกฎหมายหรือคำสั่ง 

ทั้งนี้ ข้าวนึ่ง หรือ Parboiled Rice คือ ผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ได้มาจากการนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำจนมีความชื้นประมาณ 30-40% แล้วนำไปนึ่งต่อหรือต้มจนสุก จากนั้นจึงนำมาทำให้แห้งพร้อมนำเปลือกออก  โดยวิธีการดังกล่าวช่วยเพิ่มคุณภาพการสีข้าวให้หักน้อยลง และคงคุณค่าทางโภชนาการ 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา “ราคาข้าวในเอเชีย” ทะยานสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 หลังจากอินเดียประกาศห้ามส่งออกธัญพืชบางส่วน และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการผลิตของไทยที่หดตัวจากภัยแล้ง

ที่สำคัญ จากสถานการณ์เงินเฟ้อจากราคาอาหาร-พลังงานในอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย จึงพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งในต้นปีหน้า 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา อินเดียสั่งห้ามการส่งออกข้าวหัก และข้าวขาว ที่ไม่ใช่บาสมาติแล้ว รวมทั้งลดการส่งออกข้าวสาลี และน้ำตาล และจำกัดการกักตุนพืชผลบางชนิด นอกจากนี้ อินเดียยังอยู่ในช่วงพิจารณายกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลี 40% รวมทั้งภาษีขายมะเขือเทศ และธัญพืชจากทุนสำรองของรัฐเพื่อปรับปรุงอุปทาน

โดยข้อมูลซึ่งรวบรวมจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า ในปี 2565/66 อินเดียส่งออกข้าวมากที่สุดถึง 40.5% รองลงมาคือไทยอยู่ที่ 15.3% และเวียดนาม 13.5% สุดท้ายคือ ส่วนอื่นๆ รวมกันอยู่ที่ 30.7% 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์