บาทอ่อน บาทแข็ง TFEX USD Futures จัดการได้
ในช่วงนี้ค่าเงินสกุลต่างๆ มีความผันผวนมาก จากการปรับอัตราดอกเบี้ยของ Fed หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยปัจจุบัน ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 10 เดือน อยู่ที่ประมาณ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรืออ่อนค่าลงกว่า 7% เมื่อเทียบกับต้นปี
ขณะที่ค่าเงินเยนญี่ปุ่นก็อ่อนค่าลงเช่นกันจากที่ระดับ 130 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 149 เยนต่อดอลลาร์ หรืออ่อนค่าลงกว่า 14% ภายในระยะเวลา 9 เดือน ซึ่งค่าเงินที่ผันผวนอย่างมากภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ ส่งผลกระทบต่อทั้งต้นทุนและกำไรในการทำธุรกิจของบริษัทต่างๆ รวมถึงผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ
ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกและการท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากผู้ส่งออกที่มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้รายได้มากขึ้นเมื่อแลกเงินนั้นกลับมาเป็นเงินบาท ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์จากการที่ต่างชาติมองว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ในทางตรงข้ามค่าเงินบาทที่อ่อนค่านี้จะทำให้ผู้นำเข้ามีต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาน้ำมันซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศมีต้นทุนที่แพงขึ้น ซึ่งในระยะยาวอาจจะมีผลต่อค่าครองชีพและเงินเฟ้อในประเทศได้
นอกจากนี้ภาคการลงทุนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกที่ซื้อขายด้วยสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง แต่ผู้ลงทุนไทยที่ซื้อทองคำในประเทศด้วยสกุลเงินบาทอาจจะเห็นว่าราคาทองในสกุลเงินบาทปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก เงินบาทที่อ่อนค่าลง
ในการบริหารความเสี่ยงที่เกิดจากค่าเงินนั้น คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงการทำธุรกรรมฟอร์เวิร์ดกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีข้อดีคือความยืดหยุ่น โดยผู้ประกอบการสามารถเลือกวงเงินทำธุรกรรม และวันครบกำหนดสัญญาได้ตามต้องการ อย่างไรก็ดี การทำสัญญาต้องมีการแสดงหลักฐานการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับต่างประเทศ และการทำสัญญาแต่ละครั้งจะต้องมีขนาดพอสมควร ดังนั้น การทำฟอร์เวิร์ดจึงมักจะจำกัดในวงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินกับธนาคารอยู่แล้ว
แต่สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการบริหารความเสี่ยงที่ขนาดไม่ใหญ่นักก็อาจไม่มีความพร้อมมากนักในการเตรียมเอกสาร และต้องขอวงเงินจากธนาคารเพิ่มเติม ดังนั้น ผู้ประกอบการอาจพิจารณา USD Futures ใน TFEX เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้งานเพื่อบริหารความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ด้วยมีความสะดวกและสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยการเปิดบัญชีซื้อขาย TFEX นอกจากนี้สัญญา USD Futures ยังมีขนาดเล็กเพียง 1,000 USD ต่อหนึ่งสัญญาเท่านั้น ทำให้กิจการขนาดเล็กก็สามารถใช้บริหารความเสี่ยงได้อย่างคล่องตัว
แม้ว่าการทำฟอร์เวิร์ดและการใช้ USD Futures เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเหมือนกัน แต่ก็มีกลไกที่ต่างกัน โดยในการทำสัญญาฟอร์เวิร์ดกับธนาคารนั้น ธนาคารจะประเมินอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าให้กับผู้ประกอบการแต่ละราย ซึ่งคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันบวกด้วยฟอร์เวิร์ดพ้อยต์ (Forward point) ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้รับนั้นจะขึ้นกับขนาดธุรกรรมที่ทำ เครดิตของผู้ประกอบการ และความถี่ในการทำสัญญา เป็นต้น
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2566 ค่า Forward point เฉลี่ยสำหรับผู้นำเข้าที่มีรายได้ 50 - 200 ล้านบาทต่อปี อยู่ที่เฉลี่ย -29.3125 สตางค์ ดังนั้น หากวันดังกล่าวอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 36.722 บาท ผู้นำเข้าจะสามารถขอซื้อดอลลาร์ล่วงหน้าอายุ 90 วันผ่านสัญญาฟอร์เวิร์ดกับธนาคารได้ในอัตราประมาณ 36.6489 บาท (คำนวณจาก 36.722 + (-29.3125/100 * 90/360))
ขณะที่ การใช้ USD Futures ใน TFEX จะมีกลไกแตกต่างออกไป ผู้ลงทุนจะซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้าในบัญชี TFEX โดยสามารถเลือกสัญญาที่ครบกำหนดอายุใกล้เคียงกับระยะเวลาที่ต้องการ เช่น ในวันที่ 2 ต.ค. 2566 ผู้นำเข้าที่ต้องการซื้อดอลลาร์ล่วงหน้าอายุ 90 วัน ก็สามารถเลือกสัญญาที่ครบกำหนดอายุในเดือนธันวาคม 2566 โดยมีราคาเสนอขายที่ดีที่สุดอยู่ที่ 36.63 บาท ซึ่งจะเห็นว่าเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับสัญญาฟอร์เวิร์ด และสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้เงินดอลลาร์จริง ก็สามารถเลือกใช้บริการเปลี่ยนสถานะใน USD Futures เป็นดอลลาร์จริงกับธนาคาร ณ วันที่ต้องการใช้เงินเพื่อประกอบธุรกิจจริงได้ด้วย
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปนั้น สามารถซื้อขาย USD Futures ตามการคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างผลกำไรได้ เช่น คาดการณ์ว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ก็สามารถซื้อหรือ Long USD Futures และหากคาดว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ก็สามารถใช้การขาย หรือ Short USD Futures เพื่อสร้างผลกำไรได้ นอกจากนี้ ผู้ลงทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศหรือลงทุนในทองคำ ก็สามารถใช้ USD Futures เพื่อสร้างกลยุทธ์ลงทุนหรือจัดการความเสี่ยงด้านค่าเงินบาทออกไปได้ด้วยการขายหรือ Short USD Futures
ปัจจุบัน TFEX USD Futures มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ประมาณ 43,500 สัญญาหรือเทียบเท่ากับ 43.5 ล้านดอลลาร์ โดยเปิดให้ซื้อขายทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ทั้งนี้ ในช่วงภาคค่ำเปิดซื้อขายตั้งแต่ 1 ทุ่มถึงประมาณเที่ยงคืน เนื่องจากเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับการซื้อขายทองคำในตลาดโลก และ TFEX ยังมีแผนขยายเวลาซื้อขายในช่วงกลางคืนออกไปถึงตี 3 ของวันรุ่งขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ หรือ ติดตามข้อมูลทางเว็บไซต์ www.TFEX.co.th