หุ้นไทยย่อลึก - พื้นฐานยังดี บลจ.จับจังหวะทริกเกอร์ ฟันด์

จากความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังกลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอล ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลก และสินทรัพย์เสี่ยงส่อแววผันผวนอีกครั้ง รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ถือว่าปรับฐานลงมาค่อนข้างลึก 

จากวิกฤติพลิกเป็นโอกาส บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จับจังหวะในการทำกำไรกับการออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ขณะที่อีกฟากฝั่งบลจ.บัวหลวง มองอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น กองทุนเทอมฟันด์น่าจะตอบโจทย์นักลงทุนได้มากกว่า 

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสที่น่าจะมีความยืดเยื้อ แต่ยังอยู่ในวงจำกัด แต่สิ่งที่จะเข้ามากระทบคือ ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจของโลกกับของสหรัฐ ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐเริ่มมีการปรับตัวลดลงมาในอายุ 10 ปี และ 2 ปี หลังจากนี้จึงคิดว่าในเดือนพ.ย.เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ถ้ามีการปรับขึ้นน่าจะไม่เกินเดือนธ.ค.นี้ เพื่อรอดูตัวเลขจากความไม่แน่นอน

แม้สหรัฐจะส่งกองกำลังเข้าไปช่วย แน่นอนงบประมาณของสหรัฐจะต้องสูญเสียไป และต้องไม่ลืมว่า สหรัฐเพิ่งผ่านกระบวนการชัตดาวน์ (Government Shutdown) และในช่วงชัตดาวน์มีระยะเวลา 45 วันในการเสนองบประมาณสำหรับประจำปี จึงคิดว่าเฟดน่าจะมีความพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และงบประมาณตรงนี้ด้วย จึงคาดว่าน่าจะให้น้ำหนักในการคงอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า หุ้นไทยปรับฐานลงมาค่อนข้างลึก และพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนมาก โดยหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาจากงบประมาณของรัฐที่ต้องการเป็นจำนวนมากเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจบอนด์ยีลด์ในบ้านเราปรับตัวขึ้นไป จึงทำให้ Earning Yield Gap (ส่วนต่างระหว่าง Earning Yield ของตลาดหุ้น เทียบกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (Government Bond Yield) ซึ่งมักจะใช้พันธบัตรอายุ 10 ปี) ปรับตัวลดลง ทำให้หุ้นไทยปรับฐานลงมาค่อนข้างเยอะ ดังนั้นบริษัทมองว่า กองทุนทริกเกอร์ ฟันด์หุ้นไทย เพื่อจับจังหวะลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานที่ดีโดยตั้งเป้าหมาย 5% ภายใน 6 เดือน

"ในบางตลาดที่เป็นลักษณะของทริกเกอร์ ฟันด์ เราควรที่จะเลือกกองทุนที่มีการปรับฐานลงมาพอสมควร แต่พื้นฐานโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนมาก จึงเหมาะกับการออกทริกเกอร์ ฟันด์มากกว่า แต่ถ้าเป็นกองทุนทั่วไป เช่น สหรัฐ หรือญี่ปุ่น ณ วันนี้ตลาดยังไม่ได้ย่อลงมาเยอะ เหมือนหุ้นไทยที่ลงมาค่อนข้างมาก แต่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน เพราะฉะนั้นกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์จึงอาจจะต้องเลือกเป็นรายประเทศที่ปรับฐานลงมาเยอะ แต่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน และยังมีอัพไซด์อยู่" 

นอกจากนี้ จากการที่ภาครัฐมีการใช้นโยบายการคลัง หลังจากนั้นจะมีพายุหมุนทางการเงิน โดยมองว่า ในช่วง 3 - 6 เดือน จะเริ่มเห็นผลเชิงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ขณะที่ ตลาดอยู่ที่ 1,440 จุด และในช่วงนี้หุ้นไทยเริ่มเห็นสัญญาณบวกขึ้นมาได้ และต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย 

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันปัจจัยความไม่แน่นอนเข้ามารุมเร้าค่อนข้างมาก ซึ่งในปีหน้าอัตราดอกเบี้ยยังสูง เงินเฟ้อยังไม่ลง เศรษฐกิจจะชะลอตัว ทั้งนี้เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นมักจะประสบว่า มีคนว่างงานมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวถึงขั้นถดถอย โดยมองว่า การออกกองทุนทริกเกอร์ในช่วงนี้เป็นแค่การเข้าไปเก็งกำไรจากความผันผวนเท่านั้น บริษัทจึงยังไม่มีแผนที่จะออกกองทุนประเภทดังกล่าว 

ขณะเดียวกันในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนออกกองทุน RMF และกองทุนประเภทเทอมฟันด์มากกว่า ซึ่งมองว่า เศรษฐกิจผันผวนมีความไม่แน่นอนนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง และต้องการนำเงินมาพักกองทุนเทอมฟันด์จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงขาลง

"ส่วนที่เหลือของปีนี้กองทุนประหยัดภาษีจะออกกองทุน RMF บีพรีเมียมอาร์เอ็มเอฟ และกองทุนเทอมฟันด์ ในไตรมาส 4 ที่เหลือของปี เพราะช่วงปลายปีสิ่งที่นักลงทุนจะหาเข้ามาลงทุนคือ กองทุนที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ และกองทุนเทอมฟันด์เป็นตัวโรลโอเวอร์ที่ครบกำหนด และเมื่อนำมาโรลโอเวอร์ใหม่นักลงทุนมักจะชอบ เพราะได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพราะเป็นวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น"

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์