เฟดยุติ ‘ดอกเบี้ยขาขึ้น’ ชั่วคราว ปัจจัยหนุนบอนด์ยีลด์ใกล้แตะจุดสูงสุด ?
“คณะกรรมการนโยบายทางการ” นำโดย เจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี แม้ยังเปิดทางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ หากจำเป็น ด้าน “บลูมเบิร์กโพล” เผย บอนด์ยีลด์อาจใกล้แตะจุดสูงสุดแล้ว
สำนักข่าวเดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) รายงานถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) วันนี้ (2 พ.ย.66) ว่า อาจสิ้นสุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ และคงอัตราส่วนดังกล่าวไว้ที่ระดับ 5.25 - 5.50% แต่ไม่ปฏิเสธว่ามีโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพราะต้องจับตาตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่น
โดยเมื่อวันพุธคณะกรรมการนโยบายทางการเงินลงมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และคณะกรรมการฯ อยู่ในช่วงดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในการประชุมเจ้าหน้าที่ของเฟดเมื่อเดือนก.ย. นักวิเคราะห์ส่วนมากคาดการณ์ว่า คณะกรรมการฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าเฟดอาจไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วเว้นแต่ข้อมูลเศรษฐกิจจะออกมาร้อนแรงเกินคาดการณ์
น่าสนใจว่าพาวเวลสะท้อนความคิดเห็นของเขาออกมาเมื่อวานนี้หลังการประชุม โดยเน้นย้ำซ้ำๆ ถึงอัตราเงินเฟ้อที่ลด แทนที่จะเน้นย้ำถึง “ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ” ในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ระบุว่า การตัดสินใจของเฟดล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ “ละเอียดอ่อน” สำหรับตลาดการเงิน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 1% นับตั้งแต่เดือนก.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ซึ่งถือเป็นภาระด้านต้นทุนการกู้ยืมของทั้งโลก
นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคารของสหรัฐ (US Federal Fund Rate) ไปอยู่ในช่วง 5.25 - 5.5% ด้วย
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันเดียวกันว่า หลังจากเฟดตัดสินใจคงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายชั่วคราวดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า “แรงขาย” ในตลาดพันธบัตรสหรัฐอาจเริ่มปรับลดลง
ในเวลาเดียวกัน บรรดานักวิเคราะห์ และนักลงทุนจำนวนมากต่างเริ่มเปลี่ยนความสนใจไปอยู่ที่ “ขนาดของการขาดดุล” รัฐบาล เนื่องจากกระทรวงการคลังเพิ่งจะประกาศแผนการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐออกมาแล้ว โดยเริ่มดำเนินการในสัปดาห์หน้ามูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลล์ (ประมาณ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามของโพลซึ่งสำรวจโดยบลูมเบิร์กพบว่า 38.8% มองว่าปัจจุบันบอนด์ยีลด์ปรับตัวสู่ระดับสูงสุดแล้ว ในขณะที่ 48.8% มองว่าอัตราส่วนดังกล่าวยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นแต่อาจไม่เกิน 5.5% ในขณะที่ 12.5% มองว่าอัตราผลตอบแทนฯ จะขยายตัวมากกว่า 5.5%
ท้ายที่สุดมุมมองดังกล่าวตอกย้ำถึงการมองโลกในแง่บวกของบรรดานักลงทุนว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของ “ภาวะถดถอย” ในรอบสามปีจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดของเฟดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 แล้ว
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์