'สามแบงก์ดัง' สหรัฐ ฟันธง ปี 67 อสังหาฯ จีนทรุดต่อ แม้เชื่อจีดีพีโตได้ 5%
Goldman Sachs Group Inc., Morgan Stanley และ UBS Group AG ฟันธงภาคอสังหาฯ จีนยังทรุดต่อ โดยพิจารณาจากยอดขายอสังหาฯ ที่หดตัว ยอดลงทุนด้านอสังหาฯ ที่ต่ำ รวมทั้งกิจกรรมในภาคส่วนนี้ที่น้อยลง แม้คาดปี 2567 จีดีพียังโตได้ที่ 5%
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (28 ธ.ค.) ว่า การตกต่ำของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนมีแนวโน้มดําเนินต่อไปในปี 2567 ซึ่งจะหั่นการเติบโตทางเศรษฐกิจลง ในขณะที่ความพยายามของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพของภาคธุรกิจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การชะลอตัวทางเศรษฐกิจคลี่คลาย
แนวคิดข้างต้นคือฉันทามติจากธนาคารเพื่อการลงทุนและนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 10 แห่ง รวมถึง Goldman Sachs Group Inc., Morgan Stanley และ UBS Group AG
หากการคาดการณ์ของพวกเขาถูกต้องก็จะทําให้จีนอยู่ในเส้นทางที่ภาคอสังหาฯ จะหดตัวสามปีติดต่อกัน ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยดัชนีของการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จีนลดลง 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) ขณะที่ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงมากถึง 8.4%
ทั้งนี้ Bloomberg Economics คาดการณ์ว่า แนวโน้มการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังห่างไกลจากจุดต่ำสุด แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ความต้องการที่อยู่อาศัย
การตกต่ำที่ยืดเยื้ออาจหมายถึงบทบาทของภาคส่วนดังกล่าวในฐานะตัวขับเคลื่อนอุปสงค์สินค้าและบริการได้หดตัวลง โดยดีมานด์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นประมาณ 20% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ในขณะนี้ลดลงจาก 24% ในปี 2018
ขณะที่ ฮุ่ย ซาน (Hui Shan) นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซกส์และคณะ ประเมินว่าในทางบวกว่าการเติบโตในภาคอสังหาริมทรัพย์จะหดตัวอยู่ในเลขสองหลักในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สินทรัพย์ถาวรในปีหน้า และการตกต่ำของภาคส่วนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจะลดการเติบโตของจีดีพีที่แท้จริงลงหนึ่งเปอร์เซ็นต์
ส่วนนักวิเคราะห์จากมอร์แกนสแตนลีย์มองว่า ดัชนีการเติบโตภาคอสังหาริมทรัพย์จะลดลง 7% ในขณะที่ UBS คาดว่าจะลดลง 5% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากจีนก็มองในแง่ลบเช่นกัน โดย China Merchants Bank International คาดว่าการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จะลดลง 7%
เหตุผลสําคัญสําหรับคาดการณ์ครั้งนี้คือการลดลงอย่างรวดเร็วในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่ในปี 2566 ตามรายงานของ หมิง หมิง (Ming Ming) นักกลยุทธ์จาก Citic Securities Co. Ltd. และนักเศรษฐศาสตร์คนอื่น ๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ของโครงการที่เสร็จสมบูรณ์แล้วก็มีโอกาสปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
อีกเหตุผลหนึ่งคือยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงซึ่งทําให้นักพัฒนามีแรงจูงใจน้อยลงในการเริ่มก่อสร้าง ทั้ง Goldman และ UBS เห็นยอดขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง 5% ในปีหน้า
การชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์มีผลกระทบในวงกว้าง ด้วยขนาดของภาคธุรกิจและกิจกรรมการก่อสร้างที่ลดลงเป็นสาเหตุสําคัญของอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอจนทำให้จีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืดในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์หลายคนยังคงมองว่ารัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ทะเยอทะยานสําหรับปี 2567 ที่ประมาณ 5% ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีมาตรการกระตุ้นทางการคลังจํานวนมากเพื่อชดเชยการเติบโตจากที่อยู่อาศัย
อ้างอิง