กสิกรไทย แบงก์แรกของไทย ได้รับรองมาตรฐาน ISO ระดับสากล มุ่งสู่ความยั่งยืน
ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารแห่งแรกของไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ระดับสากล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีในการทำงานของพนักงาน บนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน
ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นของธนาคารกสิกรไทย ในการดำเนินงานบนหลักการธนาคารแห่งความแห่งยั่งยืน (Bank of Sustainability) ผ่านการสร้างความเติบโตบนความสมดุลทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จึงให้ความสำคัญกับการจัดการการดำเนินงานของธนาคาร รวมถึงด้านโครงสร้างพื้นฐานและอาคารต่าง ๆ ของธนาคาร
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ธนาคารทำเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ของธนาคาร
ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีในการทำงาน ด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ธนาคารเป็นสถานที่ที่พร้อมรองรับการใช้งานของพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเสริมสร้างความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีในระยะยาว
จากความมุ่งมั่นดังกล่าว ธนาคารจึงยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจของธนาคาร คู่ค้า และพันธมิตรและเข้ารับการประเมินอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดธนาคารกสิกรไทยได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001:2015 และมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO45001:2018
สำหรับอาคารสำนักงานใหญ่นับเป็นธนาคารแรกของไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO พร้อมกันทั้ง 2 มาตรฐานในคราวเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงการขับเคลื่อนนโยบายความยั่งยืนที่นำไปสู่การปฏิบัติจริงภายใต้ขอบข่าย “การบริหารจัดการการให้บริการด้านการธนาคารและการเงิน (The Management of Banking and Financial Service)”
โดยผลการดำเนินงานของธนาคารที่สอดคล้องกับมาตรฐานดังกล่าว ประกอบด้วย
การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้มาตรฐาน ISO14001:2015 อาทิ ธนาคารมีการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและนำไปปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
โดยทยอยติดโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ของธนาคาร การคัดแยกขยะภายในอาคารอย่างเป็นระบบ และการวางระบบบริหารจัดการน้ำทิ้งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดมลภาวะน้อยที่สุดสอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารในการไปสู่ Net Zero
การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยภายใต้มาตรฐาน ISO45001:2018 อาทิ การป้องกันอัคคีภัย การประเมินและการควบคุมความเสี่ยงจากการทำงาน โดยสร้างความตระหนักให้แก่พนักงาน ให้มีความรู้และเข้าใจในกระบวนการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ลดความสูญเสีย และดูแลสุขภาพพนักงานภายใต้เป้าหมาย Zero Accidents and illnesses
ดร.พิพัฒน์พงศ์ กล่าวตอนท้ายว่า มาตรฐานสากล ISO ทั้ง 2 มาตรฐานที่ได้รับครั้งนี้ เป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารได้ดำเนินงานบนความสมดุลของหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ด้วยการสร้างพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ควบคู่กับการให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดี แนวทางปฏิบัติเหล่านี้ นอกจากจะเริ่มดำเนินการที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแล้ว จะสามารถเป็นต้นแบบการปรับปรุงการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมขยายผลสู่การบริหารจัดการในมิติอื่นๆ ของธนาคารต่อไป