บลจ. จิตตะ เวลธ์ ชี้โอกาส พิชิตหุ้นจีน หวังรีเทิร์นสูง 100% ใน 5 ปีข้างหน้า
บลจ. จิตตะ เวลธ์ ชวนเปิดประตูสู่หุ้นจีนฟอร์มยักษ์ คว้าโอกาสลงทุนช่วงตลาดต่ำสุดในรอบ 15 ปี มองขาลงใกล้จบแล้ว เป็นจังหวะเหมาะเข้าลงทุนในหุ้นดี-ราคาถูก สไตล์ VIคาดหวังผลตอบแทนสูงถึง 100% ใน 5 ปีข้างหน้า และล่าสุดเปิด Jitta Ranking ฮ่องกง ให้ลงทุนครอบคลุมทั้งจีน และฮ่องกง
นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเริ่มต้นลงทุนหุ้นคุณภาพดี และราคาที่ยังไม่สูงเกินไป อย่างตลาดหุ้นจีนที่ได้ปรับลดลงมาต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงในเวลานี้ปรับลดลงมาต่ำสุดในรอบเกือบ 15 ปี
ทั้ง 2 ตลาดนี้มีความเกี่ยวพันกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าตลาดหุ้นจีนค่อนข้างมาก ทำให้ล่าสุด P/E Ratio ของ HSI (Hang Seng Index) อยู่ที่ 8.46 เท่าเทียบกับ P/E Ratio ของตลาดหุ้นจีนที่ดัชนี SSE (Shianghai Stock Exchange Index) อยู่ที่ 12.83 เท่า (ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567) ราคาหุ้นที่ปรับลดลงมา ถือเป็นโอกาสที่น่าลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับลดลงมามากเกิดจากความกังวลเรื่องภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำให้ราคาหุ้นจีนและฮ่องกงปรับลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น แต่การล้มละลายของ Evergrande บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนเมื่อต้นปีนี้ทำให้เชื่อได้ว่า เวลานี้เราอยู่ในช่วงปลายของวิกฤติอสังหาฯ จีนแล้ว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐผลักดันออกมาเช่น การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 0.5% เพื่อเพิ่มเงินในระบบและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดเริ่มมองว่าโอกาสที่ตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงจะปรับลดลงคงมีไม่มากแล้ว
"ในจังหวะที่ตลาดปรับลง นักลงทุนอาจจะหวั่นไหว ไม่กล้าลงทุน แต่หากนึกถึงวลีของนักลงทุนระดับโลกอย่างWarren Buffett ที่ว่า “จงกล้าในยามที่คนอื่นกลัว” จะพบว่าเป็นโอกาสที่น่าลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาอัลกอริทึมของ JittaRanking ได้พิสูจน์มาแล้วว่า การลงทุนในช่วงหลังวิกฤติสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้สูงกว่าตลาดเกือบ 2 เท่า
เช่นในปี 2566 หลังผ่านวิกฤติเงินเฟ้อ JittaRanking หุ้นสหรัฐ สร้างผลตอบแทนโดดเด่นถึง 44.25% เทียบดัชนี S&P500 TRI Return ที่ทำได้ 24.73% พิสูจน์อัลกอริทึมที่ทำงานได้ดี ยิ่งลงทุนช่วงวิกฤติ AI ยิ่งเก็บหุ้นดีราคาถูกได้มาก และฟื้นตัวแรงเมื่อตลาดขาขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 15% หลังวิกฤติ โดยคาดหวังผลตอบแทนสูงถึง 100% ใน 5 ปีข้างหน้าหรืออาจเร็วกว่านั้นหากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็ว”
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นอาจเห็นภาพตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงที่แกว่งตัว และปรับลดลงได้บ้าง แต่เชื่อว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจีนออกมาจะสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนได้ โดยเฉพาะหุ้นฮ่องกงที่จะเห็นภาพที่ชัดเจนกว่า จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงไปมากกว่า และความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติที่มีมากกว่าเนื่องจากฮ่องกงเป็นตลาดเสรีด้านการเงิน มีมาตรฐานบัญชีที่เป็นสากล และเป็นศูนย์กลางทางการเงินอันดับ 4 ของโลก
นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า เพื่อฉลองเทศกาลตรุษจีน จิตตะเวลธ์ จึงใช้จังหวะนี้เปิดกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ฮ่องกง เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่มี Jitta Ranking จีน และJitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน ที่ลงทุนในตลาดหุ้นSSE และ SZSE อยู่แล้ว เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน ‘หุ้นดีราคาถูก’ จากตลาดหุ้นจีนได้ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี AI ที่จะทำหน้าที่วิเคราะห์งบการเงินย้อนหลัง 10 ปี ของหุ้นจากตลาดหุ้นฮ่องกง (HKEX) ที่มีอยู่ถึง 2,411 ตัว และคัดเลือกหุ้น 5-20 อันดับแรกตามหลักการหุ้นเน้นคุณค่าของ Warren Buffett มาบริหารจัดการพอร์ตอัตโนมัติ ลงทุน และปรับพอร์ตทุก 3 เดือน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้นักลงทุนทำกำไรสูงชนะดัชนีตลาดในระยะยาว โดยผลการพิสูจน์อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี (Back Test) ของ JittaRanking ฮ่องกง (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) สามารถทำได้ถึง 19.68% ต่อปี ในขณะที่ดัชนี HSITR สามารถทำผลตอบแทนได้เพียง 0.57%
นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า จิตตะ เวลธ์ ยังเสริมความเฮงให้กับลูกค้าด้วยกองทุน Thematic DIY หุ้นฮ่องกง ธีมใหม่ที่ออกมาเป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากเดิมที่มี ธีมหุ้นจีน ธีมหุ้นสุขภาพจีน และธีมหุ้นพลังงานสะอาดจีนให้เลือกลงทุนอยู่แล้ว
พิเศษสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนหุ้นจีนทุกประเภทตั้งแต่ 10,000 บาท ภายในวันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2567 รับฟรีเครดิตค่าธรรมเนียม 0.5% ของเงินลงทุน (สูงสุด 100,000 บาท) พร้อมลุ้นรับอั่งเปา 2 เท่า หากโอนเงินมาเป็นลำดับที่ลงท้ายด้วยเลข 9
ทั้งนี้นโยบาย Jitta Ranking ทุกประเทศลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท และเพิ่มทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท ส่วนกองทุนส่วนบุคคล Thematic DIY ลงทุนเริ่มต้นที่ 10,000 บาท และเพิ่มทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัดคิดค่าธรรมเนียมบริหารจัดการเพียง 0.5% ต่อปี
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์