'อินเดีย' หั่นยอดนำเข้าน้ำมันรัสเซีย 35% ต่ำสุดรอบปี อ้างหาของถูกให้ประชาชน
"ยอดนําเข้าน้ำมันดิบรัสเซีย" ของอินเดียลดลงในเดือนม.ค. ที่ 35% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี จากจุดสูงสุดของปีที่แล้ว เนื่องจากนิวเดลีต้องการกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายน้ำมัน
KEY
POINTS
- การนําเข้าน้ำมันดิบรัสเซียของอินเดียลดลงในเดือนม.ค. ที่ 35% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี
-
รัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอินเดียในปี 2566 โดยคิดเป็นประมาณ 30% ของการนําเข้า
-
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอินเดียเผย ต้องการหาราคาน้ำมันที่ดีที่สุดให้ประชาชน
สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงาน (20 ก.พ.67) ถ้อยแถลงของฮาร์ดีป ซิงห์ ปูรี (Hardeep Singh Puri) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมของอินเดียว่า "ยอดนําเข้าน้ำมันดิบรัสเซีย" ของอินเดียลดลงในเดือนม.ค. ที่ 35% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี จากจุดสูงสุดของปีที่แล้ว เนื่องจากนิวเดลีต้องการกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายน้ำมัน
โดยรัฐมนตรี กล่าวว่า การลดลงของยอดการนำเข้าน้ำมันครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจําเป็นในการ "จัดหาพลังงานในราคาที่ถูกที่สุด" ให้กับสาธารณชน โดยอ้างถึงแนวทางการจัดซื้อที่เน้นราคาของนิวเดลี
"เราเป็นประชาธิปไตย เรามีความรับผิดชอบต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง"
ปูรี กล่าวในการให้สัมภาษณ์ในรัฐกัว (Goa) ควบคู่ไปกับนิทรรศการสัปดาห์พลังงานอินเดีย
ด้านข้อมูลจากบริษัทวิจัย Vortexa แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมา อินเดียเพิ่มการซื้อน้ำมันรัสเซียหลังจากการรุกรานยูเครนของมอสโกในปี 2565 โดยใช้ประโยชน์จากส่วนลดราคาจำนวนมากจากการคว่ำบาตรของตะวันตก โดยการนําเข้าเพิ่มขึ้นจากศูนย์ในเดือนม.ค.2565 ก่อนสงครามเป็น 1.27 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนม.ค. 2566
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอินเดียในปี 2566 โดยคิดเป็นประมาณ 30% ของการนําเข้า เมื่อเทียบรายเดือนสูงสุดที่ 1.99 ล้านบาร์เรลในเดือนก.ค.
"เราได้กระจายความเสี่ยงแล้ว" ในช่วงสองปีที่ผ่านมาปูรี กล่าว พร้อมเสริมว่า "วันนี้เรานําเข้าน้ำมันดิบจาก 39 ประเทศ"
เมื่อถามถึงส่วนแบ่งการนําเข้าน้ำมันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของรัสเซียในอินเดียในปีนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมตอบว่า "เป็นเรื่องยากมากที่จะพูด" โดยสังเกตว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 0.2% ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมา
"บางทีประเทศอื่นๆ อาจจะให้ส่วนลดแก่เรามากขึ้น" เขากล่าว พร้อมเล่าว่า "ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถนิยามได้"
ด้าน สํานักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันของอินเดียจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ระหว่างปี 2566 ถึง 2573 เป็น 6.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
"อินเดียเป็นหนึ่งในไม่กี่ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ทุกคนมีความสนใจที่จะจัดหาให้กับอินเดียมากขึ้น"
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า การนําเข้าของอินเดียจากรัสเซียที่ลดลงเป็นสัญญาณว่าความพยายามของสหรัฐและพันธมิตรในการกระชับมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโก
ขณะที่ในเดือนธ.ค.2565 กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) และสหภาพยุโรป (EU) กําหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งบังคับใช้โดยการปิดกั้นการเข้าถึงการประกันสําหรับการจัดส่งที่ขายเกินเกณฑ์ดังกล่าว โดยเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว วอชิงตันคว่ำบาตรเรือสองลําของบริษัทในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตุรกีที่ละเมิดมาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ มีรายงานว่ามอสโกได้ใช้ "กองเรือเงา" ของเรือบรรทุกน้ำมันที่มีอายุมากเพื่อหลบเลี่ยงข้อจํากัดในการขนส่ง
บทวิเคราะห์ของนิกเคอิ รายงานว่า เมื่อรัสเซียอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรทางการเงินเช่นกันธนาคารกลางอินเดียในปี 2565 ได้จัดตั้งระบบเพื่อให้สามารถชําระเงินการค้าเป็นรูปีได้ แต่การใช้หลักการนี้ถูกจํากัดเนื่องจากความเสี่ยงในการทําธุรกรรม และอัตราแลกเปลี่ยน โดยว่ากันว่าอินเดียได้จ่ายค่าน้ำมันดิบรัสเซียเป็นดอลลาร์หรือเดอร์แฮมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันเดียวกันว่า น้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายเหนือ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากเพิ่มขึ้นสามวันติดต่อกัน ในขณะที่ West Texas Intermediate อยู่ใกล้ 79 ดอลลาร์ จากการโจมตีในทะเลแดงครั้งล่าสุด
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์