ธปท. พบธุรกิจนำเข้า-ส่งออก เกินครึ่ง กระทบ จากความขัดแย้ง ‘ทะเลแดง’
ธปท.เปิดสำรวจ ความเชื่อมั่นธุรกิจ พบธุรกิจ นำเข้าส่งออก เกินครึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งบริเวณทะเลแดง จากต้นทุนขนส่งพุ่ง การส่งมอบสินค้าช้ากว่ากำหนด คู่ค้าชะลอคำสั่งซื้อ สะเทือนธุรกิจขนาดใหญ่
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท. ) เปิดผลการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) เฉพาะกิจ ระหว่างวันที่ 1 - 23 กุมภาพันธ์ 2567 โดยพบว่า ธุรกิจที่มีการนำเข้า-ส่งออกประมาณครึ่งหนึ่ง ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณทะเลแดง
โดยผลสำรวจพบว่า ธุรกิจการผลิตมีสัดส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ มากกว่าธุรกิจการค้า และส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ ผลิตอาหาร ผลิตผลิตภัณฑ์อโลหะ ผลิตเคมีภัณฑ์ และผลิตเหล็ก ซึ่งได้รับผลกระทบผ่าน
(1) ต้นทุนค่าขนส่งที่ปรับสูงขึ้น
(2) ระยะเวลา ส่งมอบสินค้านานขึ้น แต่คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน
(3) คู่ค้าชะลอคำสั่งซื้อ เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบส่วนมากจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่
ส่วนการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ คาดการณ์การส่งออกในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 อย่างไรก็ดี สัดส่วนของผู้ที่คาดว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมีมากขึ้น
ทั้งนี้ หากจำแนกรายอุตสาหกรรม พบว่า มุมมองด้านการส่งออกของธุรกิจสำคัญหลายธุรกิจ ปรับดีขึ้น อาทิ ธุรกิจผลิตอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ปรับดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 50 จากแนวโน้มการส่งออกชิ้นส่วน สำหรับยานยนต์ และตัวเก็บประจุไฟฟ้า (Capacitor) ที่เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับการส่งออกของธุรกิจ เคมีภัณฑ์ ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก รวมถึงการส่งออกของธุรกิจ ผลิตอาหารทะเลแช่แข็งที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การส่งออกของธุรกิจผลิตอื่นๆ และธุรกิจการค้าอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม
ตรุษจีน-มาตรการ Easy E- Receipt ดันบริโภคฟื้น
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกเดือนกุมภาพันธ์ปรับดีขึ้นเล็กน้อย ตามการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค
โดยดัชนี RSI เดือนกุมภาพันธ์ปรับดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 50.7 จาก 49.2 ในเดือนก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของดัชนีย่อยด้านยอดขายสาขาเดิม (SSSG) และความถี่ ของผู้ใช้บริการ (Frequency
ซึ่งเป็นผลจากการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน และการเร่งทำโปรโมชั่นของร้านค้าในช่วงที่มีมาตรการ Easy E-Receipt ในช่วงครึ่งแรกของเดือน
อย่างไรก็ตาม ผลของมาตรการ Easy E-Receipt ช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าได้เพียงเล็กน้อย และเฉพาะกลุ่ม สินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยส่งผลดีต่อยอดขายของร้านค้าบางประเภท อาทิ ห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นด้านการใช้จ่ายต่อใบเสร็จ (Spending Per Bill) ปรับลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มไฮเปอร์มาเก็ตและซูเปอร์มาเก็ตที่ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 อีกครั้ง
สะท้อนกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ร้ายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าให้ลดลงเล็กน้อย
หากพิจารณาความเชื่อมั่นรายภูมิภาค พบว่ายอดขายของร้านค้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงภาคกลางปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ ดัชนีปรับ ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งจากกรุงเทพฯ และภาคกลางได้รับผลดีจากมาตรการ Easy E-Receipt มากกว่าพื้นที่อื่น