ทิสโก้ เปิดตัว TISCO My Goal จับมือพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ
ทิสโก้ กางแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 2567 เดินหน้ายกระดับให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดีและมั่นคงทั้งด้านการเงิน สุขภาพ และที่อยู่อาศัย ชูโปรแกรม TISCO My Goal ตัวช่วยออกแบบแผนการเงินให้ถึงเป้าหมายของลูกค้าเฉพาะราย
นายพิชา รัตนธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ธุรกิจธนบดี และบริการธนาคาร ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นวัตกรรมการแพทย์ก้าวหน้าทำให้อายุเฉลี่ยของคนทั่วโลกมีแนวโน้มยืนยาวขึ้น โดยจากการสำรวจและคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติ (United Nationals) และเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม (World Economic Forum) คาดว่าในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) อายุเฉลี่ยคนทั่วโลกจะอยู่ที่ 77.3 ปี
และที่น่าสนใจคือ คนไทยมีอายุเฉลี่ยเกินค่าเฉลี่ยโลกอยู่ที่ 82.3 ปี ซึ่งปัจจุบันไทยติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศที่ผู้สูงวัยเติบโตเร็วที่สุดในโลก และก้าวสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ (aged society) ไปแล้ว
จากการเทรนด์ดังกล่าว ธนาคารทิสโก้ ในฐานะผู้นำการวางแผนแบบองค์รวม หรือ Holistic Advisory ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของคำแนะนำ (Good Advice) คุณภาพของบทวิเคราะห์เชิงลึก (Good Research) และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Good Product) จึงต้องการเข้ามาช่วยคนไทยวางแผนให้ครอบคลุมในทุกมิติรับกับสังคมสูงวัย พลิกโฉมไปจากการวางแผนการเงินรูปแบบเดิม ได้แก่
1. เพิ่มความพร้อมด้านการเงิน ผ่านการลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น และหลักประกันของชีวิตควรครอบคลุมทั้งประกันสุขภาพ โรคร้ายแรง และประกันบำนาญ
2. สนับสนุนเรื่องการดูแลสุขภาพ และ 3.เพิ่มความพร้อมด้านที่อยู่อาศัยวัยเกษียณ ผ่านบริการที่ผสมผสานระหว่างจุดแข็งของบุคลากรที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยี พร้อมจับมือกับพันธมิตรทั้งด้านการเงิน (Financial) และพันธมิตรในธุรกิจอื่น (Non-financial) เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด
ชู TISCO My Goal โปรแกรมออกแบบแผนการเงินให้ถึงเป้าหมาย
ธนาคารทิสโก้หวังให้คนไทยมีเงินใช้แบบสุขสบายในสังคมอายุยืน พัฒนา TISCO My Goal โปรแกรมวางแผนการเงินที่ครอบคลุมทั้งกองทุน ประกัน เงินฝาก รวมถึงวางแผนมรดกให้แก่ทายาท ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยให้เจ้าหน้าที่ธนกิจส่วนบุคคล (RM) นำไปใช้ออกแบบแผนการเงินเพื่อการเกษียณให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย โดยจะใช้ข้อมูลจาก 3 ส่วนเข้ามาช่วยในการวางแผน ได้แก่
1. เป้าหมายค่าใช้จ่ายทั่วไปหลังเกษียณของแต่ละคน 2. ค่าใช้จ่ายสำคัญหลังเกษียณ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ กรณีเกิดโรคร้ายแรง โดยคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งกรณีการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ให้ลูกค้าเลือกได้ว่าเมื่อเกษียณแล้วต้องการรักษาที่โรงพยาบาลประเภทใด
3. การส่งต่อทรัพย์สินให้ทายาท ให้คำแนะนำว่าจะวางแผนอย่างไรหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้การวางแผนการเงินประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางไปสาขา หรือต้องการวางแผนการเงินเบื้องต้นสามารถใช้งานโปรแกรม TISCO My Goal ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชัน TISCO My Wealth เว็บไซต์ TISCO Wealth และ LINE OA: TISCO Advisory
“ธนาคารทิสโก้พบว่าโปรแกรมวางแผนการเงินในปัจจุบัน เน้นแต่เรื่องการออมเงินและลงทุนอย่างไรให้มีเงินก้อนก่อนเกษียณที่เพียงพอ แต่ยังมีช่องว่างเรื่องการวางแผนด้านค่าใช้จ่ายสุขภาพ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่มักจะเกิดขึ้นในชีวิตหลังเกษียณ รวมทั้งอาจจะลืมคำนึกถึงกระแสเงินสดหลังเกษียณที่สามารถสร้างได้ด้วยประกันบำนาญ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้วางแผนเกษียณมักจะยอมลดคุณภาพชีวิตหลังเกษียณของตัวเองลงเพื่อลดจำนวนเงินที่ตัวเองต้องเก็บออมก่อนเกษียณ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วชีวิตหลังเกษียณเราอาจยังต้องการใช้ชีวิตที่เทียบเท่ากับช่วงชีวิตที่ทำงานมีรายได้อยู่ ดังนั้น โปรแกรมนี้จะเข้ามาช่วยออกแบบแผนการเงินให้เป็นไปตามความเป็นจริงและเป็นไปตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากที่สุด และสำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูงต้องการส่งต่อมรดกให้แก่ทายาท โปรแกรมนี้ก็จะช่วยแนะนำให้ท่านวางแผนส่งต่อมรดกแบบไร้รอยต่อและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบริหารจัดการภาษีมรดกอีกด้วย” นายพิชากล่าว
ยกระดับบริการ ลุยเปิด TISCO Advisory Branch
นายพิชากล่าวอีกว่า การให้บริการลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealth) จำเป็นต้องให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ธนกิจส่วนบุคคล (RM) ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความแม่นยำของคำแนะนำ ดังนั้น ธนาคารทิสโก้จึงเดินหน้าให้บริการลูกค้าแบบ “Hybrid Advisory” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการให้ “คำแนะนำที่ดี”
ควบคู่กับการมี “ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม” ให้แก่ลูกค้า รวมถึงการนำ “เทคโนโลยี” เข้ามาช่วยยกระดับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเจ้าหน้าที่ RM ของธนาคารทิสโก้ทุกรายได้รับใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน (IC License) และธนาคารทิสโก้ยังส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ RM ทุกสาขาได้รับคุณวุฒิที่ปรึกษาการเงิน (AFPT®) และนักวางแผนการเงิน (CFP®) อีกด้วย
“เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่มีคุณภาพ ธนาคารทิสโก้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ RM ของเราได้รับคุณวุฒินักวางแผนการเงิน (CFP®) และที่ปรึกษาการเงิน (AFPT™) และมีเป้าหมายให้ทุกสาขามีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับคุณวุฒิ AFPT™ ให้บริการวางแผนการเงิน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าแผนการเงินที่ธนาคารทิสโก้ออกแบบให้นั้นดี ครบถ้วน ได้มาตรฐานระดับโลก” นายพิชากล่าว
นอกจากนี้ ยังยกระดับบริการด้วยสาขารูปแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Advisory Branch โดดเด่นด้วยบริการปรึกษาแผนการเงินด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีคุณวุฒิ AFPT™ ซึ่งเป็นสาขาที่จะช่วยลูกค้าออกแบบแผนการเงินเฉพาะบุคคล สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจอยากต่อยอดเงินล้าน มีกิจกรรมให้ความรู้ด้านการเงิน
รวมถึงกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ และกิจกรรมด้านไลฟ์สไตล์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบโจทย์ความเป็น Holistic Advisory หรือแบบองค์รวม และยกระดับการบริการด้านการวางแผนเกษียณ โดยมีเป้าหมายให้บริการที่สาขาสำนักงานใหญ่เป็นสาขานำร่องซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2567 นี้
และหลังจากนี้จะขยาย Advisory Branch ไปยังสาขาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งต้องการทางเลือกการออม การลงทุนที่มีความหลากหลาย รวมทั้งต้องการวางแผนชีวิตในด้านอื่นๆ มากขึ้น
จับมือพันธมิตรหลากหลายธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
นายพิชากล่าวอีกว่า ในด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดี (Good Product) ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญที่จะช่วยให้แผนการเงินของลูกค้าประสบความสำเร็จนั้น ธนาคารทิสโก้มีโมเดลธุรกิจ Open Architecture สามารถคัดเลือกและเสนอขายผลิตภัณฑ์การเงินจากหลากหลายบริษัท โดยปัจจุบันเสนอขายผลิตภัณฑ์กองทุนจาก 14 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และ 8 บริษัทประกันชั้นนำ ทำให้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์การเงินที่เป็นจุดแข็งของแต่ละบริษัทมานำเสนอลูกค้าได้
“การจะเป็น Advisory Bank ที่ดีให้กับลูกค้าได้นั้นต้องไม่จำกัดเรื่องการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากบริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น เพราะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแต่ละแห่ง และบริษัทประกันแต่ละรายล้วนแต่มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และไม่มีที่ไหนทำได้ดีที่สุดหรือเก่งที่สุดได้ตลอดเวลา ธนาคารทิสโก้มั่นใจว่าด้วยโมเดลธุรกิจ Open Architecture ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินแบบไม่จำกัดค่าย ผสานกับบทวิเคราะห์ จากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU)และบทวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ประกัน ผลิตภัณฑ์กองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นจากทีม Wealth Advisory รวมทั้งการให้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ RM ที่แนะนำโดยใช้ความต้องการของลููกค้า (Customer Focus) เป็นตัวตั้งจะทำให้แผนการเงินของลูกค้ามีประสิทธิภาพสูงสุด” นายพิชากล่าว
ทั้งนี้ สำหรับวิธีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์กองทุนนั้น ธนาคารทิสโก้มีกระบวนการศึกษากลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบด้าน ทั้งด้านผลตอบแทน ความเสี่ยง ขนาดของกองทุน สภาพคล่อง ฯลฯ และนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการการลงทุนที่มีผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนเพื่อคัดสรรกองทุนที่คิดว่าดีที่สุดก่อนจะนำเสนอให้กับลูกค้า
สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันนั้นพันธมิตรบริษัทประกันแต่ละแห่งก็มีความเชี่ยวชาญและมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นแตกต่างกัน ธนาคารทิสโก้จะคัดสรรประกันที่คุ้มค่ามาให้ลูกค้า รวมถึงเข้าไปหารือร่วมกับบริษัทประกันช่วยกันออกแบบความคุ้มครองเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารทิสโก้ได้ประโยชน์สูงสุด
นายพิชากล่าวอีกว่า นอกจากการสร้างความมั่งคั่ง และการปกป้องความมั่งคั่งแล้ว ธนาคารทิสโก้มองว่าการที่ลูกค้าจะมี Well being เพื่อให้มีความสุขได้อย่างสมบูรณ์ ก็ควรจะต้องมีสุขภาพที่ดี และความเป็นอยู่ที่ดีร่วมด้วย จึงก้าวไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรด้าน Non - financial ซึ่งครอบคลุมในเรื่องสุขภาพ และไลฟ์สไตล์ โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลรัฐฯ และเอกชน 7 แห่งในการให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ อัปเดตนวัตกรรมการแพทย์ และให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ลูกค้า และสร้างความพร้อมด้านที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ
โดยร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ลูกค้าวางแผนการเกษียณที่ครบถ้วน
“ธนาคารทิสโก้และพันธมิตรทุกองค์กรจะเดินหน้าร่วมกันเป็น “Friends for Well-being" เพื่อให้ลูกค้าธนาคารทิสโก้ได้ทั้งคำแนะนำทางการเงินที่เสริมสร้างและปกป้องความมั่งคั่งให้กับลูกค้า และคำแนะนำสุขภาพ รวมถึงด้านที่อยู่อาศัย ที่ตอบโจทย์การให้คำแนะนำลูกค้าแบบองค์รวม หรือ Holistic Advisory ที่ครอบคลุมทั้ง Financial และ Non-Financial และเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะสามารถมีความสุขกับ Lifestyle ที่เลือกไปตลอดทุกช่วงชีวิตและเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจธนบดีของธนาคารทิสโก้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเป้าหมายการเป็น “Your Trusted Financial Advisor” ของกลุ่มทิสโก้ได้” นายพิชา กล่าว