HSBC เห็นโอกาสโตธุรกิจในไทย พร้อมแนะภาครัฐออกกฎระเบียบที่ชัดเจน
“อแมนดา” เผยเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจในอาเซียนและไทย ท่ามกลางเทรนด์เปลี่ยนผ่านสู่ “ยุคดิจิทัล” แนะรัฐออกกฎระเบียนที่ชัดเจน และมั่นคงต่อการทำธุรกิจในไทย
ท่ามกลางความตึงเครียดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นความไม่สงบในรัสเซีย-ยูเครน , การสู้รบในตะวันออกกลาง , สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมไปถึงการแข่งขันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของตัวเอง สารพัดประเด็นทั้งหมดทำให้นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งประเมินว่ากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อาเซียน” มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์ครั้งนี้
อแมนดา เมอร์ฟี่
โดย อแมนดา เมอร์ฟี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ในประเด็นดังกล่าวว่า เธอมองว่าเห็นโอกาสในภูมิภาคนี้จำนวนมาก จนกระทั้งเมื่อไม่นานมานี้ธนาคารเอชเอสบีซี จึงออกกองทุน ASEAN Growth Fund มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนกลุ่มธุรกิจในเอเชีย
นอกจากนี้ จากผลการสำรวจกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ของธนาคารประจำเดือนมี.ค. 2567 พบว่า ธุรกิจจำนวนมากมั่นใจการทำธุรกิจในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโต ท่ามกลางการขยายตัวของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยผู้ตอบแบบสอบถามสัญชาติไทยกว่า 97% เห็นโอกาสการเติบโตของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมากกว่า 90% ต้องการขยายธุรกิจออกไปในภูมิภาค
“ตัวเลขทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างมาก และหนึ่งปัจจัยสำคัญของความต้องการขยายธุรกิจในอาเซียนคือ การพัฒนาด้านเทคโนโลยี โดยผู้ตอบแบบสอบถามราวสองในสามบอกว่าเตรียมพร้อมที่จะลงทุนในเทคโนโลยีและดิจิทัลให้สินค้าและบริการ”
อย่างไรก็ตาม แม้หลายบริษัทมีความพยายามผลักดันสินค้า และบริการของตัวเองเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีและดิจิทัลทว่าผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนหนึ่งยังแสดงความคิดเห็นว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัลยังเป็นปัญหาสำคัญในการเติบโตของตัวเอง
ดังนั้น เพื่อพัฒนาให้ธุรกิจในไทยเพื่อรับโอกาสที่จะเข้ามาในอนาคต อแมนดา กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลยังเป็นเรื่องที่จำเป็นเจ้าของธุรกิจต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานมีทักษะและความสามารถด้านดังกล่าวเพราะนั่นเป็นกุญแจสําคัญในยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้ หนึ่งสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องการคือ ความมั่นคงและโปร่งใสและในช่วงนี้หลายประเทศในเอเชียจัดการเลือกตั้งขึ้น ซึ่งนำมาซึ่งความไม่แน่นอนต่อภาคธุรกิจว่าใครจะเข้ามาปกครองประเทศ ดังนั้น ในช่วงนี้บริษัทส่วนมากจึงตัดสินใจยุติแผนการขยายกิจการชั่วคราว
“สำหรับไทยทำอะไรได้บ้าง เป็นเรื่องสําคัญมากที่ไทยต้องวางตัวให้อยู่ในหลักนิติธรรมที่ชัดเจน มีระเบียบที่แน่นอนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนและทำธุรกิจ เพราะภาคธุรกิจนั้นต้องการความมั่นคงและชัดเจน”