บิ๊กซัพพลายเออร์ญี่ปุ่น MinebeaMitsumi จ่อขยายลงทุน ไทย-กัมพูชา 5 หมื่นล้านเยน
"มินีแบมิตซูมิ" ซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจ่อทุ่มเงิน 5 หมื่นล้านเยนหรือราว 11,556 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานในกัมพูชาและเพิ่มการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงงานในประเทศไทย
สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานวันนี้ (10 พ.ค.) ว่า มินีแบมิตซูมิ (MinebeaMitsumi) ซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นวางแผนที่จะลงทุนเกือบ 5 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 321 ล้านดอลลาร์ (ราว 11,556 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานในกัมพูชาและเพิ่มการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงงานในประเทศไทย
โดยจุดประสงค์การลงทุนในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนของบริษัท
ทั้งนี้ การก่อสร้างโรงงานในกัมพูชาจะเริ่มในปีงบประมาณนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มดําเนินการได้เร็วที่สุดในปีงบประมาณ 2026 ขณะที่โรงงานจะผลิตชิ้นส่วนสําหรับรถยนต์และชิ้นส่วนเครื่องจักรด้วยเม็ดเงินลงทุน 3.2 หมื่นล้านเยน(ประมาณ 7.6 พันล้านบาท)
โดยปัจจุบัน มินีแบมิตซูมิ ผลิตตลับลูกปืนและมอเตอร์ขนาดเล็กในกัมพูชาอยู่แล้ว แต่บริษัทฯ ต้องการขยายสายการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังเผชิญความท้าทายด้านพื้นที่ในการขยายฐานการผลิต
บริษัทฯ จะสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นบนพื้นที่ 500,000 ตารางเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าโรงงานปัจจุบันราว 2.5 เท่า
สำหรับประเทศไทย บริษัทฯ จะลงทุน 1.7 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 4 พันล้านบาท) เพื่อเพิ่มกําลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงงานที่มีอยู่ โดยจะเพิ่มกําลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยขึ้นเป็น 170 เมกะวัตต์ จากเดิม 16.5 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดการขยายบริษัทฯ จะสามารถจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ครอบคลุม 50% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่บริษัทฯ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 30% ทั่วทั้งกลุ่มบริษัทภายในปี 2030
นอกจากประเทศไทยแล้ว มินีแบมิตซูมิยังติดตั้งกําลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงงานในกัมพูชาและฟิลิปปินส์ โดยผลผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดในสามประเทศคาดว่าจะสูงถึง 230 เมกะวัตต์ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งบริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนครึ่งหนึ่งในขั้นตอนนั้น
อ้างอิง