SCB กำไรครึ่งปี 2.1 หมื่นล้าน ลดลง 6.9% หลังค่าธรรมเนียมประกัน - สินเชื่อวูบ
SCB เปิดกำไรครึ่งปี 2.1 หมื่นล้าน ลดลง 6.9% หลังรายได้ค่าธรรมเนียมประกัน - สินเชื่อวูบ ส่วนสำรองลดลงแม้ตั้งสำรองสำหรับธุรกิจรายใหญ่เพิ่มขึ้น
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ของปี 2567 จำนวน 10,014 ล้านบาทลดลง 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับครึ่งแรกของปี 2567 บริษัท มีกำไรสุทธิจำนวน 21,295 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 2 ของปี 2567 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 32,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิใน
ขณะที่สินเชื่อโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตรา 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ และมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน
ขณะที่ รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ มีจำนวน 10,328 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 18,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ก่อนรายการที่ เกิดขึ้นครั้งเดียว) อยู่ที่ 41.2%
ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 18,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ก่อนรายการที่ เกิดขึ้นครั้งเดียว) อยู่ที่ 41.2%
บริษัท ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 11,626 ล้านบาท ลดลง 3.9% จากปีก่อน โดยในไตรมาสนี้รวมการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่ง อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 161.7%
คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน2567 อยู่ที่ 3.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัท อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.8%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ และยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เน้นความมั่นคงทางการเงิน รักษาระดับเงินสำรองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และการบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้จะมีความท้าทาย บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดให้นักลงทุนรวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าถึง โอกาสการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคงอย่างทั่วถึง โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 7 ชุด มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์