เช็คเงื่อนไข! ปี 67 ซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิด ลดหย่อนภาษีได้กรณีใดบ้าง

อัปเดตประกาศล่าสุด กรมสรรพากร กรณีการซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนตามจริงที่ซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ได้ทั้งแบบบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล มีเงื่อนไขอย่างไร

อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อปี 2564 ได้มีประกาศจากกรมสรรพากรเรื่องยกเว้นภาษีเงินได้จากการซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดให้กับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

และล่าสุดก็ได้มีประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 450) ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ในกรณีที่มีการซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิด อัปเดต ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2567

โดยประกาศในครั้งนี้ ทางอธิบดีกรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่เข้าข่าย สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดมาลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนตามจริงที่ซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถอธิบายเงื่อนไขต่างๆ ได้ดังนี้

เงื่อนไขสำหรับบุคคลธรรมดา

1.เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งต้องเป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินตามาตรา 40(5) , (6) , (7) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร

2.จ่ายค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน และได้ติดตั้ง ณ สถานประกอบกิจการที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ (เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ หมายถึง ท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในท้องที่อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา และจังหวัดสตูล)

3.ต้องสามารถแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมิน และพิสูจน์ได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

4.ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 48(1) แห่งประมวลรัษฎากร โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคำนวณหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควร

ทั้งนี้ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปคำนวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้หักตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว

เช็คเงื่อนไข! ปี 67 ซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิด ลดหย่อนภาษีได้กรณีใดบ้าง

เงื่อนไขสำหรับนิติบุคคล

1.เป็นการจ่ายค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน และได้ติดตั้ง ณ สถานประกอบกิจการที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ (เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ หมายถึง ท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในท้องที่อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา และจังหวัดสตูล)

2.ไม่เป็นทรัพย์สินที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้น ตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

3.ไม่เป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

4.ต้องสามารถแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินและพิสูจน์ได้ว่า เป็นการจ่ายค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดดังกล่าว สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2567 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2569

5.ต้องเริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินนั้นตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2567 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2569

6.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ต้องใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้มีการจ่ายค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดนั้น

สรุป

ทั้งนี้ อาจสรุปได้ว่า บุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจอยู่มาตรา 40(5) , (6) , (7) และ (8) รวมถึงนิติบุคคล หากเข้าเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 450) เรื่องยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละ 100 ของเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ณ สถานประกอบกิจการที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ นั่นแสดงว่าสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อและติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดมาหักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ตามจริง

แต่ในกรณีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีไปแล้ว แต่ปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ดังกล่าว ไม่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ และต้องนำเงินได้ที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้ว รวมเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือรวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

และกรณีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นั้น ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้เพิ่มเติมสำหรับปีภาษีหรือรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นั้น ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มด้วย

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting