นักเศรษฐศาสตร์ฟันธง กนง.ไม่ลดดอกเบี้ยเร็ว ลุ้นปลายปีลดครั้งแรก!

นักเศรษฐศาสตร์ฟันธง  กนง.ไม่ลดดอกเบี้ยเร็ว ลุ้นปลายปีลดครั้งแรก!

“เคเคพี” ชี้ กนง.เผชิญแรงกดดันลดดอกเบี้ยมากขึ้น “ทีทีบี” ระบุ เงินบาทแข็งค่าเป็นจุดเปลี่ยนเร่งไทยลดดอกเบี้ย หากค่าเงินพลิกแข็งค่าสูงขึ้น “ซีไอเอ็มบีไทย” คาดประชุม กนง.เดือนหน้ายังไม่ลดดอกเบี้ย

การดำเนินนโยบายการเงินของไทย ถูกจับตามากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลง 0.5% เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2567 

กนง.เผชิญแรงกดดันลดดอกเบี้ยมากขึ้น

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวว่า การตัดสินใจลดดอกเบี้ยของเฟดสร้างแรงกดดันต่อนโยบายการเงินของหลายประเทศเช่นเดียวกับไทยที่อาจเผชิญแรงกดดันหนักขึ้น

โดยล่าสุดอินโดนีเซียลดดอกเบี้ยลง 0.25% ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมองว่าการดำเนินนโยบายการเงินของไทยอาจตามอัตราดอกเบี้ยในภูมิภาคหรือไม่

ทั้งนี้หากสถานการณ์ข้างหน้า โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ธปท.อาจเผชิญแรงกดดันหนักขึ้นว่าอาจเป็นสาเหตุให้เงินบาทแข็งค่า

 

แต่ในมุมเกียรตินาคินภัทรมองว่า กนง.อาจไม่เร่งลดดอกเบี้ยตามเฟดหรือประเทศในภูมิภาค เพราะส่วนใหญ่ กนง.ดูปัจจัยในประเทศเป็นหลัก

โดยเฉพาะจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่เห็นต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 4 คาดว่ามีโอกาสเห็นการโตของจีดีพี 4% จากการเร่งกระตุ้นภาครัฐ ดังนั้นความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีน้อยลง

ดังนั้นการลดดอกเบี้ยอาจถูกดีเลย์ได้จากเดิมที่มองว่า กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายปีนี้ในเดือนธ.ค.ที่ 0.25% หากเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง

เงินบาทแข็งค่าเป็นจุดเปลี่ยนเร่งลดดอกเบี้ย 

นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics (Chief Data and Analytics Group) และผู้บริหารศูนย์วิจัยทีทีบี กล่าวว่า จากการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด และหลายประเทศสะท้อนว่า อัตราดอกเบี้ยโลกอยู่ทิศทางขาลงหรือวัฏจักรขาลงแล้ว แต่อัตราดอกเบี้ยไทยถือว่าต่ำกว่าภูมิภาค และเงินเฟ้อไทยอยู่ระดับต่ำหากเทียบภูมิภาค แต่มีความเสี่ยงว่าเงินเฟ้ออาจเร่งตัวระยะข้างหน้า หากเศรษฐกิจหรือมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี

ทั้งนี้ กนง.เผชิญแรงกดดันการลดดอกเบี้ยมากขึ้น จากอัตราแลกเปลี่ยนหากอยู่ทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง หรือกลับไปแตะ 32 บาทต่อดอลลาร์ หรือต่ำกว่านั้น ที่อาจเป็นตัวที่ กนง.อาจต้องทบทวนการลดดอกเบี้ย อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยหักเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% ถือว่าสูงหากเทียบภูมิภาค

“มองว่า กนง.ไม่รีบลดดอกเบี้ยถึง ธ.ค.เลย เพราะเชื่อว่าจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยผ่านไปแล้ว ยกเว้นเงินบาทแข็งค่าเกินไปจนกระทบส่งออกมาก จึงจะเป็นประเด็นทำให้ กนง.เร่งลดดอกเบี้ย”

จับตารัฐหั่น FIDF เอื้อ กนง.ไม่ต้องลดดอกเบี้ย

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มองว่าแม้เฟดจะลดดอกเบี้ยแรง แต่เชื่อว่า กนง.จะไม่เร่งลดดอกเบี้ย แม้มีปัจจัยให้ลดดอกเบี้ยมากขึ้น จากสถานการณ์น้ำท่วมที่กระทบต่อเศรษฐกิจระดับหนึ่ง และเชื่อว่าการแจกเงินก็อาจจะไม่เพียงพอ หากดูทิศทางเศรษฐกิจไทยข้างหน้า ยังเผชิญกับความเสี่ยงขาลงมากขึ้น

ทั้งนี้ 3 ปัจจัยที่มองว่า กนง.อาจไม่ได้ลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมครั้งหน้า คือ กนง.รอสัญญาณเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจน โดยเฉพาะตัวเลขไตรมาส 3 ถัดมาคือ การติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่มีผลต่อเศรษฐกิจ และสุดท้ายรอดูนโยบายเฟดในครั้งถัดไป ดังนั้นมองว่า กนง.จะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.หลังสถานการณ์ชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตาม แต่หากกระทรวงการคลัง หรือภาครัฐ มีการออกนโยบายโดยสั่งให้ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินหรือ FIDF เหลือ 0.23%จาก 0.46% ส่วนนี้มองว่า กนง.อาจไม่จำเป็นลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์