ThaiBMA เผยหุ้นกู้ออกใหม่ 9 เดือนแรก 7.04 แสนล้าน ยังวูบ14% เหตุตลาดไม่เอื้อ

ThaiBMA เผยหุ้นกู้ออกใหม่ 9 เดือนแรก 7.04 แสนล้าน ยังวูบ14%  เหตุตลาดไม่เอื้อ

สมาคมตลาดตราสารหนี้ฯ เผย 9 เดือนแรก ยอดออกหุ้นกู้ใหม่ 7 แสนล้าน ลดลง 14% ตามภาวะตลาดยังไม่เอื้อ แต่คงเป้าปีนี้ 9แสนล้านถึง1ล้านล้าน พบรายใหม่ กลุ่ม“ปิโตรเคมี-แบงก์” ออกต่อเนื่องและโค้งท้ายยังมียอดครบกำหนด 2 แสนล้าน ไม่น่ามีปัญหา ลุ้นแบงก์ชาติลดดบ. 0.25% ต้นทุนลดลง

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ตลาดตราสารหนี้ มีมูลค่าคงค้าง 17.2 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.9% จากสิ้นปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลเป็นสำคัญ เพิ่มขึ้น 600,000 ล้านบาท   ขณะที่มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชน (หุ้นกู้ระยะยาว)  ที่  4.7 ล้านล้านบาท ลดลง 2.8%  จากสิ้นปีก่อน โดยลดลงทั้งระยะสั้นและระยะยาว

 นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ThaiBMA กล่าวว่า ทางด้านมูลค่าการออกตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่  704,153 ล้านบาท ลดลง 14% จากสิ้นปีก่อน 818,893 ล้านบาท เป็นการออกลดลง อย่างมากในกลุ่ม High yield  มีมูลค่า  39,697 ล้านบาท ลดลง 59%จากสิ้นปีก่อน 96,266 ล้านบาท และกลุ่ม investments grade มีมูลค่า 664,475 ล้านบาท ลดลง 8% จากสิ้นปีก่อน 722,627 ล้านบาท 

เนื่องจากภาวะตลาดยังไม่เอื้ออำนวย ทั้ง ความเชื่อมั่นนักลงทุน จากกรณีหุ้นกู้มีปัญหา โดยเฉพาะกรณีEA ที่ไม่คาดคิดกันมาก่อน  และตอนนี้ผู้ออกอาจชะลอการออกใหม่ จากคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยมีโอกาสลดลงในปีหน้า จึงรอจังหวะต้นทุนออกหุ้นใหม่ลดลง รวมถึงหาแหล่งระดมทุนที่ต้นทุนต่ำกว่า จึงเห็นการกลับไปหาสินเชื่อสถาบันการเงินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำลง 

ThaiBMA เผยหุ้นกู้ออกใหม่ 9 เดือนแรก 7.04 แสนล้าน ยังวูบ14%  เหตุตลาดไม่เอื้อ

นางสาวอริยา กล่าวว่า สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ยังคงเป้ายอดออกหุ้นกู้ใหม่ปีนี้ ที่ 9 แสนล้านบาท  ถึง1 ล้านล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือปีนี้  อีก ราว 2 แสนล้านบาท ไม่น่าจะมีปัญหา โดยพบว่ามียอดยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.แล้ว  1.05 ล้านบาท ยังต้องติดตามในช่วงเดือน พ.ย. ที่จะมีมูลค่าครบกำหนด ค่อนข้างมากราว 9 หมื่นกว่าล้านบาท  เชื่อว่าผู้ออกจะโรโอเวอร์หุ้นกู้ครบกำหนดทั้งหมดแต่จะมีการขยายจำนวนมากกว่าครบกำหนดหรือไม่ต้องติดตาม 

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดออกหุ้นกู้ใหม่ ลดลงแต่ยังมากกว่ามูลค่าหุ้นกู้ครบกำหนด  6.7 แสนล้านบาทในช่วง 9เดือนแรกที่ผ่านมานี้ เพราะผู้ออกยังสามารถออกหุ้นกู้ใหม่ทดแทนหุ้นกู้ครบกำหนดเดิมทั้งหมด แต่ได้ขยายวงเงิน เช่นเดิมครบกำหนด 1,000 ล้านบาท ออกใหม่เป็น 2,000 ล้านบาท 

ThaiBMA เผยหุ้นกู้ออกใหม่ 9 เดือนแรก 7.04 แสนล้าน ยังวูบ14%  เหตุตลาดไม่เอื้อ

และหุ้นกู้ออกใหม่ลดลงในทุกเครดิตเรตติ้ง ไม่ได้ลดลงจากเซ็กเตอร์ไหนเป็นพิเศษ อย่างกลุ่มเครดิตเรตติ้งสูง บริษัทขนาดใหญ่ อย่าง ปตท. ที่จะครบกำหนดในปีนี้ ก็ยังไม่ออก ต้องติดตามช่วงไตรมาสสุดท้าย หรืออาจชะลอไปออกปีหน้าที่แนวโน้มต้นทุนดอกเบี้ยลดลง

 แต่ก็มองว่า ในปีนี้ยังมีผู้ออกรายใหม่เข้ามาออกหุ้นกู้ น่าจะชดเชยได้ โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี อย่าง บมจ. บี.กริม เพาเวอร์  และ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล รวมถึงกลุ่มแบงก์ที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็นกองทุน เช่น ธนาคารซีไอเอ็มบี  ซึ่งมีมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท

อีกทั้ง 9 เดือนมานี้ เป็นการออกหุ้นกู้จากกลุ่ม Investment grade กลุ่มธุรกิจที่ออกเป็นอันดับแรก คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงาน และ คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจากผู้ร่วมตลาดชี้ว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 

นอกจากนี้ สถานการณ์หุ้นกู้ที่มีปัญหา มองว่า  ตอนนี้สถานการณ์คลายตัวดีขึ้น   ซึ่งกรณี EA มีการเจรจากับผู้ถือหุ้นกู้ไปแล้ว หากธุรกิจยังเดินหน้า ผลประกอบการดีขึ้นกลับมาชำระหนี้หุ้นกู้ ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นกู้กลับมา 

ประกอบกับปีหน้า หากเศรษฐกิจไทยดีขึ้นและการจัดหาเงินต้นทุนต่ำและดอกเบี้ยหุ้นกู้ลดลง เป็นโอกาสที่เอกชน กลับมาใช้ตลาดหุ้นกู้เป็นแหล่งระดมทุน  ดังนั้น แนวโน้มตลาดหุ้นกู้ปีหน้า คาดว่าน่าจะมีทิศทางดีขึ้นมากกว่าปีนี้   แต่มูลค่าจะกลับทะลุ1ล้านล้านบาทอีกครั้งหรือไม่นั้นยังต้องติดตามทิศทางลดดอกเบี้ยของเฟดและธปท.ในช่วงไตรมาส4นี้ เชื่อว่า จะลดดอกเบี้ยแต่จะลดมากหรือน้อยแค่ไหนยังต้องรอความชัดเจน 

“เรามองว่าช่วงโค้งท้ายปีนี้จนถึงปีหน้า บริษัทขนาดใหญ่ เครดิตเรตติ้งสูง และบริษัทกลางและเล็ก ที่มีแม่เป็นบริษัทใหญ่  มีประวัติดี  มีผลประกอบการดี  ยังเข้ามาเล่นในตลาดหุ้นกู้ ส่วนรายที่ดีฟอลไปแล้ง คงกลับยาก  ปีหน้าอยากให้เป็นปีตลาดหุ้นกู้ที่ มีคุณภาพ มากกว่าปริมาณ หุ้นกู้ที่ออกควรเป็นไปตามข้อกำหนดสิทธิใหม่ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งคงจะบังคับใช้เป็นรูปเป็นร่างไม่ให้เอาเปรียบนักลงทุนได้อีก“