HSBC จับมือ BOI ดันไทยสู่ ‘ฮับการลงทุน’ อาเซียน
ธนาคารเอชเอสบีซีมองโครงสร้างพื้นฐานไทยมีศักยภาพ จับมือ BOI ฟื้นเศรษฐกิจไทยสู่ ‘ฮับการลงทุน’ อาเซียน หลังคว้ารางวัลธนาคารระหว่างประเทศที่ดีที่สุดในไทยติดต่อกัน 4 ปี โรดโชว์ จีน อาเซียน ยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง-แอฟริกา คาด FDI ไหลเข้า8แสนล้านบาท
ครึ่งแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยเพียง 1.9% แม้การลงทุนภาครัฐ ยังชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ “ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI” กลับมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง นับเป็นหนึ่งเครื่องยนต์หลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
“จอร์โจ กัมบา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย หรือ HSBC เปิดเผยกับทาง “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางของ FDI จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมบนเศรษฐกิจของไทยที่มีความมั่นคง ทำให้ไทยมีความพร้อมที่จะเป็น “ศูนย์กลางการลงทุนระดับภูมิภาค” และสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค
โครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงแรงงานคุณภาพ ทำให้บริษัทชั้นนำจากจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐที่กำลังมองหาฐานการผลิตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
การขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของไทยในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่ผ่านมา มีจำนวน 1,412 โครงการ เพิ่มขึ้น 64% จากปีก่อน โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 458,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35% และ BOI คาดว่าในปีนี้จะมีใบสมัครขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่าถึง 8 แสนล้านบาท หรือกว่า 23,500 ล้านดอลลาร์
HSBC และ BOI ต่างมีเป้าหมายร่วมกัน คือการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งผ่านบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ “ศูนย์กลางการลงทุนอาเซียน” จึงมีการจัดโรดโชว์นักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น จีน ฮ่องกง อาเซียน สหราชอาณาจักร อินเดีย ซาอุดีอาระเบียและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่ HSBC มีเครือข่ายครอบคลุมใน 60 ประเทศทั่วโลกและเป็นแหล่งที่มาของการค้าโลกถึง 90%
จากผลสำรวจของ HSBC จากบริษัทชั้นนำทั่วโลกจำนวน 3,500 แห่ง พบว่ามีบริษัทจำนวนมากให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศไทย โดย 37% มีการลงทุนอยู่แล้วและอีก 18% มีแผนจะเข้ามาลงทุนเพิ่มอีกในอีก 2 ปีข้างหน้า ผลสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลไทย และ HSBC พร้อมที่จะสนับสนุนนักลงทุนเหล่านี้ในการขยายธุรกิจในประเทศไทยต่อไป
HSBC มองว่า “อาเซียน” ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศสูงถึง 17% ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความสนใจอย่างมาก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากทั้งจีน อาเซียนและตะวันออกกลาง-แอฟริกาที่เห็นศักยภาพของไทย
ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 75% ของยอดขายยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งหมดในภูมิภาค นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ซึ่งการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้จากจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจาก 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 ช่วยให้ไทยรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมนี้และเพิ่มสัดส่วนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายของรัฐบาลอีกด้วย
HSBC เผยถึงความร่วมมือกับ BOI พร้อมผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ “ตะวันออกกลาง-แอฟริกา” (MENAT) ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยซาอุดีอาระเบียให้ความสำคัญกับการพัฒนาความมั่นคงด้านอาหาร ภาคบริการและสาธารณสุข ซึ่งไทยมีความแข็งแกร่ง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ครองส่วนแบ่งการลงทุนจากตะวันออกกลางในไทยสูงถึง 52% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565
หลังจากที่ BOI ได้เปิดสำนักงานในกรุงริยาดเมื่อเร็วๆ นี้ คาดว่าเม็ดเงินลงทุนจากซาอุฯ จะสูงถึง 8.7 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3 แสนล้านบาทภายในปี 2567 ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้สิทธิประโยชน์จากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น นวัตกรรมดิจิทัล การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ การแปรรูปอาหาร พลังงานสะอาด และยานยนต์ไฟฟ้า
ในขณะเดียวกัน นอกจากการสนับสนุนการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยผ่านการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น BOI และ EEC แล้วนั้น HSBC ยังทำหน้าที่เชื่อมโยงธุรกิจไทยกับตลาดโลก ให้บริการลูกค้าไทยในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย พร้อมมีการลงนามร่วมกับ “สมาคมฟินเทคประเทศไทย” เพื่อผลักดันนวัตกรรมทางการเงินและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลในไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไทยทั้งในและต่างประเทศ
ตลอดระยะเวลา 135 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า HSBC ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยมาโดยตลอด สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคดิจิทัลและพลังงานสะอาด มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงในปัจจุบัน
HSBC ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและได้รับรางวัลธนาคารระหว่างประเทศที่ดีที่สุดในไทยติดต่อกัน 4 ปี ธนาคารที่ดีที่สุดในเอเชียติดต่อกัน 2 ปีจาก Euromoney และ FinanceAsia ความสำเร็จนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสให้กับภูมิภาคนี้ร่วมกัน
“เป้าหมายสูงสุดของเราคือ การเป็นธนาคารอันดับหนึ่งในใจของทุกองค์กรในไทยที่ต้องการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง เราอยากเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่น่าเชื่อถือที่สุด ช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตไปได้ไกลทั่วโลก รวมทั้งให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจ HSBC Global Private Banking เพื่อให้บริการแก่นักลงทุนชาวไทยที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศผ่านเครือข่ายของ HSBC ในฐานะธนาคารชั้นนำระดับโลก”