มองอนาคต 4 ปีข้างหน้า หุ้นเทสลา – คริปโทฯ – เรือนจำ ภายใต้ชัยชนะ โดนัลด์ ทรัมป์
ตลาดการเงินทั่วโลก รวมทั้งหุ้น TESLA หุ้นเรือนจำ หุ้นธนาคารพาณิชย์ และคริปโทเคอร์เรนซี ตอบรับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษี การค้า และการเข้าเมือง
สำนักข่าวบีบีซี รายงานวันนี้ (13 พ.ย.67) ว่า ตลาดการเงินต้อนรับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐด้วยการดันดัชนีสินทรัพย์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น
แม้จะมีการถกเถียงอย่างกว้างขวางในประเด็นเรื่องแผนการของทรัมป์การขึ้นภาษีศุลกากร การลดภาษี และการส่งกลับผู้อพยพครั้งใหญ่ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ สภาวะของดัชนีสินทรัพย์ทั่วโลกดูเหมือนจะเริ่มทรงตัว ดัชนีหุ้นสำคัญทั้งสามในสหรัฐปิดตัวในแดนลบเมื่อวันอังคาร หลังจากที่เพิ่มขึ้นประมาณ 5% นับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ซึ่งเป็นวันก่อนการเลือกตั้ง
แล้วอนาคตของสินทรัพย์การเงินโลกภายใต้ทรัมป์จะเป็นอย่างไร ?
Tesla
หุ้น Tesla พุ่งขึ้นประมาณ 35% นับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.67
การปรับตัวขึ้นในครั้งนั้นทำให้มูลค่าตลาดของบริษัท กลับมาอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 และดันความมั่งคั่งของอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ที่ถือหุ้นประมาณ 13% ในบริษัท มากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์
บทวิเคราะห์ของบีบีซี ระบุว่า การปรับตัวขึ้นทั้งหมดเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าทำเนียบขาวภายใต้การบริหารงานของโดนัลด์ ทรัมป์จะลดกฎระเบียบการตรวจสอบสมรรถภาพรถยนต์ไฟฟ้าลง เช่น ระบบการขับขี่อัตโนมัติ
ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์ และมัสก์อาจช่วยให้ Tesla รับมือกับการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และจีน ได้อย่างดี เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่สำคัญของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของมัสก์
แม้ว่าทรัมป์คาดว่าจะลดการสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง เครดิตภาษี ทว่านักวิเคราะห์แหล่งข่าวบีบีซี รายงานว่านี่อาจเป็นประโยชน์ต่อ Tesla ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในสหรัฐจนทำให้คู่แข่งตามทันได้ยากขึ้น
คริปโทเคอร์เรนซี
ราคาของคริปโทเคอร์เรนซีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดอย่าง “บิตคอยน์” พุ่งขึ้นมากกว่า 25% สู่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลในสัปดาห์นี้หลังชัยชนะของทรัมป์ โดยพุ่งขึ้นเกิน 89,000 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ
การปรับตัวขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณว่านักลงทุนคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเผชิญกับการปราบปรามภายใต้การบริหารของไบเดนจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เตือนว่ามีการฉ้อโกง และหลอกลวงอย่างแพร่หลาย
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยเรียกคริปโทเคอร์เรนซีว่าเข้าข่าย “หลอกลวง” แต่เขาได้เปลี่ยนท่าทีในระหว่างการหาเสียงปีนี้ โดยสัญญาว่าจะทำให้สหรัฐเป็น "เมืองหลวงแห่งคริปโทเคอร์เรนซี"
เขากล่าวว่าจะสร้าง "คลังสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์" (Strategic Bitcoin Stockpile) และปลด แกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ทรัมป์ด้วยการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทต่างๆ ภายใต้กฎหมายการเงินฉบับปัจจุบัน
ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซียืนยันว่า หน่วยงานกำกับดูแลควรใช้กฎหมายที่ออกแบบมาแบบเฉพาะเจาะจงในการกำกับดูแลบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ทว่าก็ไม่ได้รับการตอบสนองมากนักในรัฐบาลก่อนหน้า ทว่าในสมัยของทรัมป์อาจมีความหวังมากขึ้น
ธนาคาร
หุ้นของธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดบางแห่งของอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากนักลงทุนเดิมพันว่าบริษัทในอุตสาหกรรมการเงินจะเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากคำมั่นสัญญาของทรัมป์เรื่องการผ่อนคลายกฎระเบียบ
ที่สำคัญ ทรัมป์จะมีส่วนสำคัญในการออกกฎระเบียบล่าสุดที่ว่าด้วยจำนวนเงินสดสำรองที่ธนาคารพาณิชย์ต้องมีสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันอันตรายจากการเกิดแบงก์รัน
ทรัมป์ยังคาดว่าจะแยกทางกับลินา คาน ประธานคณะกรรมการการค้าของสหรัฐ (Commissioner of the United States Federal Trade Commission) คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากมุมมองที่เธอต่อต้านการผูกขาด และก่อนหน้านี้ถูกกล่าวหาว่าทำให้การควบรวมกิจการ (M&A) ซบเซา ซึ่งเครื่องจักรในการหารายได้สำคัญของธนาคาร
หุ้นของ Capital One และ Discover ซึ่งมีการควบรวมกิจการซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแล พุ่งขึ้นมากกว่า 15% นับตั้งแต่ผลการเลือกตั้ง
ผู้ประกอบการเรือนจำ
หุ้นของบริษัทเรือนจำที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ GEO Group และ CoreCivic พุ่งขึ้นประมาณ 70% นับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.67
การขยับตัวขึ้นของสินทรัพย์ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงโอกาสใหญ่ที่นักลงทุนมองเห็นสำหรับผู้ประกอบการเรือนจำเอกชน ในขณะที่ทรัมป์สัญญาว่าจะรวบรวม และเนรเทศผู้อพยพนับล้าน
ในปี 2021 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สั่งให้กระทรวงยุติธรรมหยุดทำธุรกิจกับบริษัทเรือนจำเอกชน
แต่ทรัมป์ ซึ่งเคยยกเลิกคำสั่งที่คล้ายคลึงกันในสมัยแรกของเขา คาดว่าจะเปลี่ยนนโยบายนั้น และผลักดันธุรกิจดังกล่าว ท่ามกลางความพยายามของทรัมป์ในการหาพันธมิตรในการดำเนินนโยบายเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง และผู้อพยพซึ่งบริษัทเรือนจำอาจเป็นพันธมิตรดังกล่าวได้
ดอลลาร์
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งหมดเป็นข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางไปต่างประเทศ แต่เป็นสัญญาณที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบต่อเศรษฐกิจ
บทวิเคราะห์ของบีบีซี ระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่งของดอลลาร์เชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยอย่างแยกไม่ออกซึ่งนักลงทุนอยู่ในช่วงเดิมพันว่าอาจจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
บางส่วนสะท้อนถึงข้อมูลก่อนการเลือกตั้งที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังเห็นความเสี่ยงว่าการลดภาษี การลดการเข้าเมือง และอุปสรรคทางการค้าใหม่ๆ อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อต่อไป ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลังเลที่จะลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ท้ายที่สุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดกล่าวถึงคำแนะนำในการประชุมครั้งหน้าไม่มากนัก โดยกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่านโยบายของทรัมป์จะส่งผลกระทบอย่างไร
อ้างอิง: BBC
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์