หุ้นน้องใหม่ CFARM โชว์ฟอร์มเด็ด เปิดซื้อขายวันแรกเหนือจอง 15.56% จากราคา IPO 1.35 บาท

หุ้นน้องใหม่ CFARM โชว์ฟอร์มเด็ด เปิดซื้อขายวันแรกเหนือจอง 15.56%  จากราคา IPO 1.35 บาท

หุ้นน้องใหม่ CFARM เปิดเปิดซื้อขายวันแรก เหนือจองพุ่ง 15.56% หรือเพิ่มขึ้น 0.21 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.56 บาท จาก IPO ที่ 1.35 บาท

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 6 มิ.ย.2567 หุ้นน้องใหม่ CFARM หรือ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) เปิดเทรดวันแรก เหนือจองพุ่ง 15.56% หรือเพิ่มขึ้น 0.21 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.56 บาท จาก IPO ที่ 1.35 บาท 

นอกจากนี้ยังพบ นักลงทุนรายใหญ่ และครอบครัวเข้าถือหุ้น CFARM 

นาย พัชรปรัตถ์ ขาวสอาด ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 จำนวน 6,250,000 หุ้น หรือ 1.08%
นางสาว วริศา ขาวสอาด ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7 จำนวน 6,250,000 หุ้น หรือ 1.08%
นาย สิปปกร ขาวสอาด ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9 จำนวน 6,250,000 หุ้น หรือ 1.08%
 

หุ้นน้องใหม่ CFARM โชว์ฟอร์มเด็ด เปิดซื้อขายวันแรกเหนือจอง 15.56%  จากราคา IPO 1.35 บาท

ธนภัทร ฉัตรเสถียร  ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยอยู่ในช่วงเติบโต เนื่องจากการเปิดตลาดส่งออกใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ทำให้ความต้องการเลี้ยงไก่เนื้อเพื่อส่งออกเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกภายในจากแผนการลงทุนของบริษัทที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยเน้นการลงทุนพัฒนาระบบในการดูแลฟาร์ม ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประสิทธิภาพการเลี้ยงดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงและการดำเนินงาน 

ขณะที่ในปี 2568 ภายหลังได้รับเงิน IPO บริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนเล้าในฟาร์มเดิม รวมถึงการสร้างฟาร์มใหม่อีก 2 แห่ง ในจังหวัดบุรีมย์ คิดเป็นกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นราว 26% จากแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม บวกกับการเติบโตภายในของบริษัท ทำให้เราคาดในปี 2567-2569 จะเป็นช่วงที่กำไรเติบโตสูงเฉลี่ย CAGR ราว 49% ต่อปี

โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ของ CFARM ที่ 1.5 บาท โดยอิง PBV เฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจฟาร์มสัตว์บกในตลาดที่ 1:23 เท่า ซึ่งหากคิดเป็น PER ปี 2567 จะคิดเป็นเพียง 18.5 เท่า ถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับอัตรการเติบโตของกำไร

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยว่า CFARM ประกอบธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงโรงเรือน รวมทั้งอุปกรณ์การเลี้ยงตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ เพื่อให้ได้ไก่เนื้อเป็นไปตามที่คู่สัญญากําหนด

ทั้งนี้ CFARM มีประสบการณ์ทําธุรกิจฟาร์มไก่มามากกว่า 20 ปี และเป็นคู่สัญญากับบริษัทชั้นนําในประเทศ เช่น เบทาโกร, CPF, ซันฟู้ด ฯลฯ โดยคู่สัญญาเป็นผู้จัดหาลูกไก่ อาหารและเวชภัณฑ์ ทําให้บริษัทไม่ต้องรับความเสี่ยงด้านราคาขายและต้นทุนโดยตรง ซึ่งอุตสาหกรรมไก่ไทยยังเติบโตเนื่องจากการเปิดตลาดส่งออกใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แต่ยังมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในสัตว์ปีก, การพึ่งพิงคู่สัญญารายใหญ่ค่อนข้างมาก และบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่จากคนตระกูลเดียวกันรวมกันเกิน 50%

สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน กล่าวว่า CFARM มีจุดเด่นคือประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของกลุ่มผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร ที่สืบทอดกิจการกันรุ่นต่อรุ่นตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มีการพัฒนาระบบการผลิตให้ทันสมัย และมีความพร้อมในการดำเนินงานสม่ำเสมอ จึงมีความชำนาญในการเลี้ยงไก่เนื้อให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐาน และมีการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่สัญญาทุกรายเรื่อยมา โดยทุกฟาร์มได้รับการรับรองเรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อจากกรมปศุสัตว์ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เลี้ยงไก่เนื้อชั้นนำของประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตเลี้ยงไก่ประมาณ 15.9 ล้านตัวต่อปี

ทั้งนี้ จากพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องอยู่ในระดับดี สะท้อนจากผลการดำเนินงานสถิติย้อนหลังสามารถทำสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2565-2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 228.70 ล้านบาท และ 240.99 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิ 21.97 และ 30.49 ล้านบาท ตามลำดับ และบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด จึงมั่นใจว่า CFARM จะมีโอกาสขยายธุรกิจได้อีกมากในอนาคต 

ชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM เปิดเผยว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะเพิ่มศักยภาพ ขยายโอกาสต่อยอดธุรกิจให้มีความมั่นคง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้น สร้างความยั่งยืนให้องค์กรในระยะยาว สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการระดมทุน เพื่อก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ โดยภายในปี 69 โดยบริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนโรงเรือนในการเลี้ยง ปรับปรุงระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ รองรับการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ และคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมไก่เนื้อที่ในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และยังมีความต้องการบริโภคเนื้อไก่มีแนวโน้มเติบโตตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับเกษตรกรมีการบริหารจัดการฟาร์มที่ได้มาตรฐาน และมีการควบคุมเฝ้าระวังโรคระบาดได้ดี ปศุสัตว์ไก่เนื้อมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายการผลิตเพื่อให้ตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นทั้งธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยว ขณะที่ความต้องการของตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันทำให้มีปริมาณการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง

CFARM มีฟาร์มเลี้ยงไก่ จำนวน 8 ฟาร์ม 121 โรงเรือน ตั้งอยู่ใน 4 อำเภอเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งบริษัทลงทุนโรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยงตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ รองรับการเลี้ยงไก่เนื้อประมาณ 3.18 ล้านตัวต่อรอบการเลี้ยง หรือ 15.88 ล้านตัวต่อปี โดยในไตรมาสแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธสัญญา ร้อยละ 94 ส่วนที่เหลือร้อยละ 6 เป็นรายได้จากการจำหน่ายผลพลอยได้และรายได้อื่น